วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

กิริยาส่อสกุล

ผู้บัญชาการทหารบกของประเทศที่ทรงอิทธิพลทางการทหารมากที่สุดในโลก กลับให้สัมภาษณ์นักข่าวด้วยท่าทีที่สุภาพ  ดังจะเห็นได้จากคำพูดที่เขาใช้ว่า “Yes, M’am.” (แปลได้ประมาณว่า เชิญครับ) ถึงสองครั้งสองครา เมื่ออนุญาตให้นักข่าวสตรีเริ่มยิงคำถาม และการตอบคำถามก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ทว่าปราศจากความกระโชกโฮกฮาก ...แต่พลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่แบบนั้น
โดย จุฑาพร โฉมงาม
17 มีนาคม 2555

เมื่อเร็ว ๆ นี้ดิฉันได้ชมคลิปวิดิโอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา (คลิปข้างล่างค่ะ) ผู้บัญชาการทหารบก แห่งกองทัพไทย ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเรื่องการปรองดอง อย่างไม่เชื่อสายตาและหูตัวเอง 

ในคลิปนั้น ตามความเห็นของดิฉัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงกิริยาท่าทีที่น่าละอายยิ่ง โดยการใช้ทั้งคำพูด น้ำเสียง และการแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง สำคัญตนราวกับว่าเป็นเจ้าขุนมูลนายบุญหนักศักดิ์ใหญ่มาจากไหนในยุคไซเบอร์สมัยปี 2555 นี้ (อย่างที่บางเว็ปไซต์ได้ใช้คำว่า “ปรี๊ดแตก”[1])


ดิฉันใคร่ขอยกตัวอย่างถอดบางข้อความในบทสัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์มาให้อ่านกันนะคะ

“ใครจะปรองดองกับใคร” “อะไรน๊ะ” “มันถามกลับไปกลับมาอยู่นั่นแหละวะ”
“ก็ทุกคนต้องยอมรับอ้ะ” “ถ้าไม่ได้ก็ฆ่ากันให้หมดทั้งประเทศ เอาอ๊ะเปล่า” “ทำไมน๊ะ”
“เขาแก้ด้วยอะไร เขาแก้ด้วยปากเอ๋อ” “พูดกี่ครั้ง กี่ร้อยเท่าแล้วก็ไม่รู้”
“ไม่มีอำนาจ ทำไม่ได้ ถ้าทำก็คือต้องใช้อำนาจพิเศษ
“เหมือนใต้เนี่ย ... ขอให้ปลอดภัย ... ก็สวดมนต์เอาแล้วกัน”

นอกจากนี้ ทั้งน้ำเสียงและกิริยาท่าทางที่ไม่ได้แสดงออกเป็นคำพูด (nonverbal expression) อย่างเช่น การกรอกลูกตา การทำตาประหลับประเหลือก การชี้ไม้ชี้มือ การพูดจีบปากจีบคอ การหัวเราะในทางเย้ยหยัน และการแสดงทีท่ารวมไปถึงอารมณ์ที่ฉุนเฉียว แสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดจากการถูกสัมภาษณ์

ดิฉันเห็นว่า จากคำพูด ทีท่าอวดเบ่ง การใช้น้ำเสียงขู่กระโชกโฮกฮากอย่างไร้มารยาทและไร้ยางอาย ในลักษณะที่พล.อ.ประยุทธ์แสดงออกนั้นเป็นการขาดความเป็นมืออาชีพ (professionalism) และภาวะการเป็นผู้นำในโลกสากลสมัยใหม่อย่างยิ่ง

ดิฉันยอมรับว่าตกใจกับกิริยาท่าทางและคำพูดในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ของพล.อ.ประยุทธ์มาก และได้สร้างความประหลาดใจให้กับดิฉัน เนื่องจากดิฉันเคยได้ยินว่าสื่อมวลชนเคยขนานนามพล.อ.ประยุทธ์ว่า “ตู่นะจ๊ะ” เพราะว่าเวลาให้สัมภาษณ์นักข่าวจะมีบุคลิกอ่อนนุ่มและติดคำลงท้ายว่า “นะจ๊ะ”[2] แต่วันนี้กาลกลับกลายเปลี่ยนไป 

สำหรับบางคนที่อาจจะเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ในประเทศไทย ในสังคมไทย อาจจะไม่มีความรู้สึกแบบดิฉัน ทว่าดิฉันเป็นคนที่สมองอยู่ไม่สุขค่ะ ชอบคิดมาก ดิฉันจึงมีคำถามขึ้นมาอีกว่า นี่น่ะหรือคะ เกียรติยศและเกียรติภูมิของผู้บัญชาการทหารบกของไทยในวันนี้ นี่น่ะหรือวุฒิภาวะ ระดับปัญญา ความสามารถของผู้นำทางทหารคนหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งในความเป็นจริง ประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นประเทศมหาอำนาจ ไม่ได้มีภาพลักษณ์ของความน่าเกรงขามในสายตาของชาวโลก หากว่าผู้บัญชาการทหารบกของประเทศนี้ดูเหมือนจะมีอำนาจบาตรใหญ่ ใหญ่คับฟ้า แสดงกิริยาเยี่ยงนี้ได้อย่างไม่อับอายใคร

นอกจากนี้ยังเป็นความเห็นส่วนตัวของดิฉันที่ว่า เวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ เขาตอบคำถามนักข่าวโดยไม่มีการสบสายตา ไม่หลบหลุบสายตานักข่าว ก็มองไปอีกทาง เสมือนว่าไม่มีความจริงใจในการตอบคำถามเหล่านั้น

ดิฉันอดสงสัยไม่ได้ สงสัยว่าลักษณะผู้นำแบบนี้ วุฒิภาวะในการตอบคำถามและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแบบนี้เป็นที่ยอมรับกัน เป็นเรื่องธรรมดาในสากลโลกในศตวรรษที่ 21 หรืออย่างไร

สงสัยมากจนดิฉันต้องไปขุดคุ้ยเปรียบเทียบการให้สัมภาษณ์ของผู้นำทางทหารของประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ของโลก อย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ว่าผู้นำทางทหารเหล่านี้จะมีท่าทีอากรัปกิริยาและการใช้ถ้อยคำรวมถึงน้ำเสียงในลักษณะอย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงออกมาหรือไม่เวลาให้สัมภาษณ์หรือสนทนากับสื่อมวลชน ลองติดตามชมจากคลิปข้างล่างนี้ดูค่ะ


สองคลิปข้างต้นนี้เป็นการให้สัมภาษณ์นักข่าวของ พล.อ.เรย์มอนด์ โอดิเอร์โน Chief of Staff of the US Army ซึ่งก็น่าจะถือได้ว่าเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก แห่งกองทัพบกของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะคลิปหลังนี่เป็นการให้สัมภาษณ์ล่าสุดแก่กลุ่มนักข่าวท้องถิ่นในมลรัฐเคนตักกี้ถึงกรณีซ้อมรบเพื่อเตรียมพลส่งไปยังประเทศอัฟกานิสถานครั้งใหม่ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง

ส่วนคลิปอีกสองคลิปข้างล่างนี่ เป็นคลิปการสัมภาษณ์ของ พล.อ.นิค พาร์คเกอร์ Commander of the Land Forces of the British Army ซึ่งก็น่าจะถือได้ว่าเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก แห่งกองทัพบกของสหราชอาณาจักร

ดิฉันชมคลิปเหล่าแล้วก็เห็นได้ว่าท่าทางอากรัปกิริยาของพล.อ.ประยุทธ์นั้นเห็นทีจะไม่ใช่ท่าทีกิริยาของผู้นำทางทหารในประเทศสหรัฐ ฯ หรือสหราชอาณาจักรแล้วล่ะค่ะ (ดีไม่ดีอาจจะรวมไปถึงประเทศทั้งหลายในโลกสากลที่เขาพัฒนาและเจริญแล้ว)

เพราะอย่างพล.อ.โอดิเอร์โน ผู้บัญชาการทหารบกของประเทศที่ทรงอิทธิพลทางการทหารมากที่สุดในโลก กลับให้สัมภาษณ์นักข่าวด้วยท่าทีที่สุภาพ และให้เกียรติเพื่อนประชาชนด้วยกันที่ประกอบวิชาชีพอื่น ดังจะเห็นได้จากคำพูดที่เขาใช้ว่า “Yes, M’am.” (แปลได้ประมาณว่า เชิญครับ) ถึงสองครั้งสองครา เมื่ออนุญาตให้นักข่าวสตรีเริ่มยิงคำถาม และการตอบคำถามก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ทว่าปราศจากความกระโชกโฮกฮาก

หรือกรณีผู้บัญชาการทหารบกของสหราชอาณาจักร ก็จะเห็นได้ว่าวาจาคำพูด และกิริยาท่าทีของพล.อ.พาร์คเกอร์ก็ไม่ได้เป็นอย่างพล.อ.ประยุทธ์ที่ดูเหมือนจะดุและขู่นักข่าวอยู่ตลอดในบทสัมภาษณ์ข้างต้นแต่อย่างใด

ดิฉันขอปิดท้ายด้วยการแสดงข้อคิดเห็นอันเนื่องมาจากการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกิริยามารยาทและการแสดงออกของสมาชิกในสังคมต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสื่อให้เห็นถึงสำนึกเกี่ยวกับและการให้ความสำคัญกับระดับชน ซึ่งอาจจะอนุมานต่อไปได้ว่าสังคมไหนก้าวหน้า ก้าวไกล และ “เจริญ” กว่ากัน

  1. ชาวไทยมีสำนึกในเรื่องของระดับชนชั้นที่ฝังรากลึกและมีการแสดงออกด้วยกิริยาท่าทางอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือถ้าเป็นการแสดงออกและปฏิบัติต่อ “ชนระดับสูง หรือ ผู้ใหญ่” ให้แสดงออกด้วยท่าทีท่ี่อ่อนน้อมและนอบน้อมไว้ก่อน เช่นการแสดงออกของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ในการรอรับเสด็จ ฯ เจ้าชายแอนดรูว์แห่งสหราชอาณาจักร ทว่าหากเป็นการแสดงออกและปฏิบัติต่อ “ชนชั้นระดับต่ำกว่า หรือ ผู้น้อย” จะแสดงออกด้วยกิริยาและวาจาที่ไร้มารยาทประกอบกับการใช้คำพูดข่มขู่อย่างไรก็ได้ เช่นการแสดงออกของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกไทย ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงการปรองดอง
  2. ชาวต่างชาติมีสำนึกในเรื่องของระดับชนชั้นน้อยกว่ามาก และมีการแสดงออกและปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ในระดับที่เสมอภาคกัน อย่างเช่นกิริยาของคุณมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ฯ ในการเข้าเฝ้าและการเฝ้ารอรับเสด็จ ฯ สมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบทที่สองพระราชินีนาถแห่งสหราชอาณาจักร และกิริยาท่าทางและคำพูดของทั้งพล.อ.โอดิเอร์โน ผู้บัญชาการทหารบกของสหรัฐ ฯ และพล.อ.พาร์คเกอร์ ผู้บัญชาการทหารบกของสหราชอาณาจักร ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่บ่งบอกให้เห็นถึงการให้เกียรติแก่คนอื่น (ซึ่งในสายตาของสังคมไทยอาจจะเห็นสื่อเป็นผู้น้อยเมื่อเทียบกับระดับนายพล) 

หมายเหตุ 

  1. เป็นที่แน่นอนว่า ในด้านเนื้อหาของการสัมภาษณ์ผู้บัญชาการทหารบกของกองทัพทั้งสามประเทศในคลิปนั้น ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ทว่าในแง่ของประเด็นการสัมภาษณ์นับว่าคล้ายคลึงกันและน่าจะเปรียบเทียบกันได้ เพราะเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันและเป็นประเด็นที่จะก่อให้เกิดการถกเถียงกันได้มากพอสมควร
  2. และเป็นที่แน่นอนอีกกันว่าทั้งสังคมไทยและสังคมต่างชาติย่อมมีข้อยกเว้น ดิฉันไม่สามารถและไม่มีความตั้งใจที่จะเหมารวมไปหมดว่าทุกคนในสังคมไทยเป็นอย่างพล.อ.ประยุทธ์ หรือทุกคนในสังคมอเมริกันเป็นอย่างพล.อ.โอดิเอร์โน แต่สิ่งที่ดิฉันทำคือการแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานข้อสังเกตและประสบการณ์เท่าที่มีอยู่ในสังคมต่าง ๆ โดยพิจารณาจากบุคคลสาธารณะ

อ้างอิง

YouTube - Videos from this email


                     ที่มาข่าว http://thaienews.blogspot.com/2012/03/blog-post_17.html



....................................................................................................

New York's new dealer if I do not eat pork. I would like to be a pig's body .. you trade creatures were slaughtered to death. The life
that you do not eat meat. You will be involved in the sin involved in the cause of death.


ไม่มีความคิดเห็น: