คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม "สมิงสามผลัด"
..............................................................................................
Above all it is, and native people.
.. From a few classes.
....................................................................
ถ้าพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนี้ คนจะนึกถึงอยู่แค่ 2-3 เรื่อง
ดีแต่พูด เอาแต่ค้าน และก็ทักษิณ
เรื่อง "ดีแต่พูด" ก็เห็นได้ชัดแล้วจากผลงาน 2 ปีช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และลูกพรรคแสดงให้เห็นแล้วว่า "การพูด" โดดเด่นกว่า "การลงมือทำ"
พอไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ยังมีความโดดเด่นด้านการพูดอีก แต่เน้นการพูดในเชิงสร้าง สรรค์หรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่อง "ว.5" โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
ส.ส.ฝีปากกล้าของพรรคประชาธิปัตย์ใช้ทักษะด้านการพูดแบบสองแง่สามง่าม เล่นงานนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เอาแต่พูดสนุกปากจนลืม "ประเด็นสำคัญ" ของการตรวจสอบรัฐบาลไปเลย แทนที่จะได้เนื้อหาสาระ ก็เลยมีแต่น้ำล้วนๆ
ทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคการเมืองเก่าแก่ไปเสียเอง
ส่วนการทำงานในฐานะฝ่ายค้านของปชป. กลับมุ่งแต่ค้านไปเสียทุกเรื่อง ไม่ใช่ค้านแบบยึดหลักการให้หนักแน่น
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือเรื่องคัดค้าน 2 พ.ร.ก.กู้ จนถูกชาวบ้านวิจารณ์หึ่งว่าทำให้การแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลสะดุดไปเป็นเดือน จนสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
หรือการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยา 7.75 ล้านบาท ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองและเหยื่อไฟใต้
ปชป.ก็ยังค้านแบบหัวชนฝา
ทั้งที่การเยียวยาแบบนี้ ไม่มีใครเคยคิดทำเลยในยุคที่ปชป.เป็นรัฐบาล
สุดท้ายก็เรื่อง "ทักษิณ" ที่ปชป.ไม่เคยก้าวข้ามได้เสียที ไล่มาตั้งแต่รัฐประหารเมื่อ ปี?49 ทักษิณเหมือนกับของเล่นในกระเป๋าปชป. จะหยิบข้ออ้างเรื่องทักษิณขึ้นมาใช้เสมอ
พอมาถึงยุคปัจจุบันที่บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปสู่ความปรองดอง ร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูประเทศ
แต่ปชป.ก็ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องทักษิณ ดูได้จากปฏิญญาหาดใหญ่ของปชป.ที่อะไรๆ ก็ทักษิณ
ไม่เห็นบอกเลยว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์อย่างไรในอนาคต
หรือจะดูแลผลประโยชน์ของประชาชนอย่างไรบ้าง
ดีแต่พูด เอาแต่ค้าน และก็ทักษิณ
เรื่อง "ดีแต่พูด" ก็เห็นได้ชัดแล้วจากผลงาน 2 ปีช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และลูกพรรคแสดงให้เห็นแล้วว่า "การพูด" โดดเด่นกว่า "การลงมือทำ"
พอไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ยังมีความโดดเด่นด้านการพูดอีก แต่เน้นการพูดในเชิงสร้าง สรรค์หรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่อง "ว.5" โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
ส.ส.ฝีปากกล้าของพรรคประชาธิปัตย์ใช้ทักษะด้านการพูดแบบสองแง่สามง่าม เล่นงานนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เอาแต่พูดสนุกปากจนลืม "ประเด็นสำคัญ" ของการตรวจสอบรัฐบาลไปเลย แทนที่จะได้เนื้อหาสาระ ก็เลยมีแต่น้ำล้วนๆ
ทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคการเมืองเก่าแก่ไปเสียเอง
ส่วนการทำงานในฐานะฝ่ายค้านของปชป. กลับมุ่งแต่ค้านไปเสียทุกเรื่อง ไม่ใช่ค้านแบบยึดหลักการให้หนักแน่น
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือเรื่องคัดค้าน 2 พ.ร.ก.กู้ จนถูกชาวบ้านวิจารณ์หึ่งว่าทำให้การแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลสะดุดไปเป็นเดือน จนสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
หรือการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยา 7.75 ล้านบาท ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองและเหยื่อไฟใต้
ปชป.ก็ยังค้านแบบหัวชนฝา
ทั้งที่การเยียวยาแบบนี้ ไม่มีใครเคยคิดทำเลยในยุคที่ปชป.เป็นรัฐบาล
สุดท้ายก็เรื่อง "ทักษิณ" ที่ปชป.ไม่เคยก้าวข้ามได้เสียที ไล่มาตั้งแต่รัฐประหารเมื่อ ปี?49 ทักษิณเหมือนกับของเล่นในกระเป๋าปชป. จะหยิบข้ออ้างเรื่องทักษิณขึ้นมาใช้เสมอ
พอมาถึงยุคปัจจุบันที่บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปสู่ความปรองดอง ร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูประเทศ
แต่ปชป.ก็ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องทักษิณ ดูได้จากปฏิญญาหาดใหญ่ของปชป.ที่อะไรๆ ก็ทักษิณ
ไม่เห็นบอกเลยว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์อย่างไรในอนาคต
หรือจะดูแลผลประโยชน์ของประชาชนอย่างไรบ้าง
วันที่ 03 มีนาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7765 ข่าวสดรายวัน
..............................................................................................
Above all it is, and native people.
.. From a few classes.
....................................................................
This or that nation. Democrats said it is not. If his people. The Democratic Party's political career, but tasteless. Objectively speaking, debate, and I do not feel so good I felt his mouth in his talk. It is multifarious.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น