วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ปฏิกิริยาหลัง 2 คนร้ายบุกชก "วรเจตน์" แกนนำนิติราษฎร์





หมายเหตุ : ภายหลังเกิดกรณีคนร้ายสองราย ขี่จยย.มาดักรอที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และทำร้ายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ซึ่งเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันเพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง มีนักวิชาการและนักกิจกรรมประชาธิปไตย แสดงความคิดเห็นดังนี้

---------

′สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล′
อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)
  
ระเทศนี้ป่วยมากๆ

คนที่ออนไลน์แสดงความ "สะใจ" หรือเชียร์ว่า "น้อยไป" ต่อการทำร้ายวรเจตน์จะเป็นคนระดับใดบ้าง คงพูดให้ตายตัวไม่ได้ เพราะสมัยนี้คนระดับล่างๆ ของสังคม ก็เริ่มออนไลน์กันไม่น้อย แต่คงไม่ผิด ถ้าจะกล่าวว่า ส่วนใหญ่ทีสุดยังเป็นคนระดับกลาง และมีการศึกษา อาจจะเป็นคนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยมหรือมหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อย

อันที่จริง ต่อให้ถ้าพูดแบบ "คติไทยๆ" การลอบทำร้ายก็เป็นการแสดงความขี้ขลาดตาขาว เพราะแสดงว่า คนที่ทำไม่กล้าแม้แต่จะมา "ท้าเผชิญหน้า" กันตัวต่อตัว ซึ่งๆ หน้า ต้องใช้วิธีลอบทำร้าย แล้วหนีไป

คนที่เชียร์การกกระทำแบบนี้ ก็แสดงความขี้ขลาดตาขาวของตนด้วย เพราะพูดตามคติ "ไทยๆ แบบโบราณ" ที่พวกนี้ชอบอ้างการกระทำที่พวกเขาเชียร์นี้ เรียกกันในภาษาบ้านๆว่า เป็นการกระทำแบบ "หน้าตัวเมีย" ไม่มีความเป็น "นักเลง" ไม่มีความกล้าหาญอะไรอยู่เลย (ขออภัย ผมไม่ได้เห็นด้วยกับการเรียกแบบนี้ เพียงแต่ยกให้เห็น ด้วยคติของคนเหล่านั้นเอง)

แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือการทีคนระดับที่มีการศึกษา ระดับ "คนชั้นกลาง" จำนวนไม่น้อยเห็นว่า การลงมือทำร้ายนักวิชาการที่ไม่เคยแม้แต่จะพูดจาก้าวร้าวไม่สุภาพ บุคคลิกรูปร่างก็ออกไปในทางคนตัวเล็กๆเรียบร้อยธรรมดาๆ เพียงเพราะสิ่งที่เขาเสนอด้วยคำพูดและงานเขียน ไม่เป็นที่ถูกใจ เป็นอะไรทีทำให้รู้สึก "สะใจ" หรือ ชอบใจได้

ต้องเป็นสังคมหรือประเทศที่ "ป่วย" มากๆ ทีแม้แต่คนที่มีการศึกษา ผ่านการอบรมบ่มเพาะเรื่องความรู้สมัยใหม่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ที่คนเหล่านั้นชอบยกมาเป็นข้ออ้าง สามารถที่จะป่าเถื่อนทางจิตใจเช่นนี้ได้

ความรู้สึกตอนนี้คือโกรธ เพิ่มขึั้นๆ

ส่วนหนึ่งของความโกรธ คือ นึกย้อนหลังไปเมื่อเดือนมกรา ช่วงที่มี คนใน รบ.บางคน และสื่อบางฉบับออกมาโจมตีนิติราษฎร์ รายวัน

คนเหล่านี้ (ทั้งคนใน รบ. และสื่อ) จะต้องรับผิดชอบทางคุณธรรมอะไรหรือไม่ ที่ช่วยกันสร้าง "กระแส" และ "บรรยากาศ" ของความไม่มีเหตุผล ความ "คลั่ง"?

การสร้างบรรยากาศหรือกระแสไร้เหตุผล คลั่งรายวัน ในเดือนก่อน ก็เป็น "แบ็กกราวน์" หรือการ "ปูทาง" สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้

คล้ายๆ ตอนที่ปีกลาย อภิสิทธ์ปล่อยให้ทหารออกมา "ตบเท้า" รายวันขู่คนเรื่อง "ล้มสถาบัน" นั่นแหละ (เนื้อหาบางส่วนจากเฟซบุ๊กของนายสมศักดิ์)

---------

สุรพศ ทวีศักดิ์
นักวิชาการและคอลัมนิสต์

ข่าว อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ถูกทำร้าย กับคำถามถึง “นักสันติวิธี”

เท่าที่ติดตามการแสดงความคิดเห็นของ อ.วรเจตน์ ผมชื่นชมมากในเรื่องความรัดกุมในหลักการ เหตุผล ไม่เคยเห็น อ.ใช้คำพูดรุนแรง เสียดสี หรือใช้ “อารมณ์เหนือเหตุผล” ในการแสดงความเห็นเลย 

การทำร้ายร่างกาย อ.วรเจตน์จึงสะท้อน “ความป่าเถื่อน” ต่อการใช้ “เหตุผล” อย่างรุนแรงที่สุดในบ้านเมืองนี้!

ถามว่ากับ “ความป่าเถื่อนต่อการใช้เหตุผล” เช่นนี้ บรรดานักสันติวิธีที่เสียงดังในสังคม ควรเลิกเป็น “แผ่นเสียงตกร่อง” ได้หรือยังครับ?

เลิกประเมินค่า “ความชอบธรรมทางศีลธรรม” ของทั้งสองฝ่ายเสมือนมี “ค่าความชอบธรรมเสมอกัน” ได้หรือยังครับ?

และนักสันติวิธีควรตั้งคำถามอย่างไร ต่อ “โครงสร้างอำนาจอันอยุติธรรมและรุนแรง” และกระบวนการสร้างความเกลียดชังทุกรูปแบบที่สนับสนุนโครงสร้างอันอยุติธรรมและรุนแรงนั้น จนส่งผลมาสู่ปรากฏการณ์ “ป่าเถื่อนต่อเหตุผล” ณ วันนี้ และ/หรือที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต?

หรือรอให้ฆ่ากันก่อน จึงค่อยออกมาจุดเทียน นั่งภาวนา ฯลฯ

ทหารเสียงดังกว่านักวิชาการและประชาชน
นักการเมืองและสื่อพินอบพิเทาต่อทหารและอำมาตย์
เสรีชนที่ใช้เหตุผลต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมไม่มีที่ยืน (เนื้อหาบางส่วนจากเฟซบุ๊กนายสุรพศ)

---------

สมบัติ บุญงามอนงค์
หรือ บก.ลายจุด
แกนนำกลุ่มอาทิตย์สีแดง

มรู้จักแกนนำเสื้อแดงในท้องถิ่นคนหนึ่ง หลังรปห. เขาออกมาเคลื่อนไหว โดนทหารจับ กอ.รมน.ตาม โดนค้น โดนขู่ จนเขาต้องหนี หลบไปอยู่ที่อื่น
แกนนำคนนี้เคยโทร.มาปรึกษาผมตั้งแต่ปี 50 ว่า จะใช้ชีวิตยังไง เพราะเขากลัวเหลือเกิน เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนเบอร์โทร เพราะโดนฝ่ายความมั่นคงตาม  ความกลัวทำให้เขาหายไปสักหนึ่ง จากนั้นผมเห็นเขากลับมาที่เดิม รวบรวมคน เปิดสถานีวิทยุชุมชน เคลื่อนไหวไปจวนผู้ว่า ค่ายทหาร สถานีตำรวจ ดุดัน
ผมเชื่ออยู่ว่า คนเราเมื่อถูกความกลัวปั่นประสาทถึงจุดหนึ่ง เขาจะโต้คืน เขาต้องเรียนรู้ว่าจะจัดการกับความกลัวและคนที่ทำให้เขากลัวอย่างไร  เขากลัวเพราะมีคนน่ากลัวกว่าเขา ดังนั้นถ้าจะสู้กับความกลัวนี้ เขาต้องน่ากลัวกว่าคนที่ทำให้เขากลัว การจะสู้กับผีก็ต้องทำตัวให้เป็นปีศาจ
หลายคนที่ใช้ความรุนแรง ทั้งๆ ที่ไม่มีพื้นฐานเป็นคนเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากสภาวะที่ทำให้เขากลัว แล้วกดความกลัวด้วยความโหดเหี้ยม
คนที่สั่งคนให้ไปฆ่าหรือทำร้ายคนอื่น ถ้าให้เขาไปลงมือเองก็คงไม่กล้า นั่นเพราะคนที่ทำให้คนอื่นกลัว ตนเองก็อยู่ในความกลัว
การต่อสู้ทางการเมืองสร้างคน 2 ประเภท คือ วีรบุรุษ และ ปีศาจ นั่นขึ้นอยู่ว่าระหว่างการต่อสู้พวกเขาดึงความเป็นมนุษย์ออกมา หรือทิ้งมันลง  คนที่ลงมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย พวกเขาก็ล้วนมีเหตุผลและอ้างเหตุแห่งการกระทำภายใต้ความดีงามทั้งสิ้น
สังคมไทยกำลังก้าวผ่านยุคสมัยที่สำคัญ ความรุนแรงไม่ใช่เป้าหมาย แต่มันคือกับดักที่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านอาจตกหลุมพรางข้อนี้

ปัญญาชนในทุกปีก ต้องทำงานอย่างหนัก ในการไม่ปล่อยให้เหยี่ยวในปีกของตนออกมาคุมเกม และเปลี่ยนสถานการณ์เป็นสงคราม
วันนี้อาจมีคนสะใจ ดีใจที่ วรเจตน์ โดนทำร้าย แต่ให้นึกถึงภาพเด็กน้อยที่ยืนหัวเราะที่ต้นมะขาม เมื่อมีคนเอาเก้าอี้ฟาดร่าง น.ศ. 6 ต.ค.

ทุกวันนี้เราแทบไม่เคยได้ยินใครเปิดเผยตัวเองว่า เป็นคนที่อยู่สนามหลวง คอยเชียร์ และสนับสนุนการฆ่าน.ศ. ในเช้าวันที่ 6 ต.ค. อีกเลย (จากเฟซบุ๊ก บก.ลายจุด)

---------

สมคิด เลิศไพฑูรย์ 
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

อประณามคนที่ทำร้ายอ.วรเจตน์ 

กล้องจับภาพคนร้ายได้ทั้ง 2 คน

ได้ชื่อ ที่อยู่คนร้ายคนแรกแล้ว 
ผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้เหตุและผลในการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาของประเทศและขอประณามความรุนแรงทุกประเภทที่กระทำต่อคนธรรมศาสตร์และคนไทยด้วยกัน

มหาวิทยาลัยมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยดีพอสมควร เช่นการจัดเวรยาม การมีบัตรเข้าออก การมี CCTV ทั้งมหาวิทยาลัย การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะได้เพิ่มมาตรการให้เพิ่มขึ้นอีก

---------

แถลงการณ์ 8 องค์กรสิทธิมนุษยชน
ประณามการทำร้ายร่างกาย 
รศ.ดร.วรเจตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์

ร้องสังคมไทยให้มีความอดทนอดกลั้นรับฟังความเห็นต่าง

รัฐมีหน้าที่คุ้มครองไม่ให้สังคมตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความกลัวและต้องนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว

ตามที่รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์  อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มอาจารย์คณะนิติราษฎร์ ถูกชายสองคนทำร้ายร่างกายภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในช่วงบ่ายวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕  บริเวณลานจอดรถของคณะนิติศาสตร์นั้น

องค์กรดังมีรายชื่อแนบท้ายนี้ มีความห่วงกังวลอย่างยิ่งว่าสาเหตุในการทำร้ายร่างกายดังกล่าวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแสดงบทบาทในฐานะนักวิชาการของกลุ่มอาจารย์คณะนิติราษฎร์  เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ารศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เคยมีความขัดแย้งกับบุคคลใดเป็นการส่วนตัว ในทางตรงกันข้ามการดำเนินกิจกรรมของคณะนิติราษฎร์ที่ได้มีข้อเสนอแนะในทางวิชาการให้ลบล้างผลพวงของรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๕๕   การจัดทำข้อเสนอเพื่อการรณรงค์แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒  และการล่ารายชื่อประชาชน ๑๐,๐๐๐ รายชื่อ เพื่อเสนอร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขมาตรา ๑๑๒ กลับทำให้กลุ่มอาจารย์คณะนิติราษฎร์ต้องตกอยู่ภายใต้การวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่อยู่ในกรอบของกฎหมายและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนสากล  จนเลยไปถึงการดูหมิ่น หมิ่นประมาท และการข่มขู่ทำร้ายร่างกายอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ  ทั้งปรากฏว่า เคยมีการแสดงความรุนแรงโดยการเผาหุ่นของดร.วรเจตน์เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕ บริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนกระทั่งเกิดการทำร้ายร่างกาย รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ขึ้นภายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันนี้    

เราเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวย่อมทำให้สังคมตกอยู่ในภาวะความหวาดกลัวถึงการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญว่าอาจมีบุคคล กลุ่มบุคคลซึ่งมีความเห็นต่างจะมุ่งประสงค์ร้าย จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือทำให้เสียชีวิต เนื่องจากการดำเนินกิจกรรมของคณะนิติราษฎร์ และการล่ารายชื่อของคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขมาตรา ๑๑๒ นั้นเป็นการกระทำบนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ และสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย  และกล่าวได้ว่ากลุ่มอาจารย์ดังกล่าวเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งรัฐมีหน้าที่คุ้มครองและปกป้องไม่ให้ผู้ใดมาละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ  และตามหลักกติกาสากลว่าด้วยการคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน

เราเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิในร่างกาย การไม่เคารพต่อเสรีภาพของบุคคลอื่น การไม่รับฟัง และขาดความอดทนอดกลั้นต่อความคิดเห็นที่แตกต่างอันเป็นพฤติกรรมที่ยิ่งจะบ่อนทำลายคุณค่าแห่งสังคมประชาธิปไตย และเห็นว่าการทำร้ายร่างกายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องการทำร้ายร่างกายส่วนบุคคลแต่เป็นเรื่องสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนในการแสดงออกตามสิทธิและเสรีภาพขั้นพี้นฐาน จึงมีข้อเสนอและข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

๑. เราขอประนามการกระทำความรุนแรงครั้งนี้ และขอให้รัฐบาลรีบดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐสามารถปกป้องคุ้มครองประชาชนในการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญได้และไม่ตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวในการใช้เสรีภาพดังกล่าว

๒. ขอเรียกร้องต่อประชาชนชาวไทยให้ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อการแสดงความเห็นที่แตกต่าง แม้ความเห็นที่คณะนิติราษฎร์หรือคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขมาตรา ๑๑๒ จะขัดแย้งต่อความรู้สึกของประชาชนชาวไทยบางกลุ่ม แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของหลักประชาธิปไตยในการอยู่ร่วมกัน

ด้วยความเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน

เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน(คนส.), สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.), มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.), คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.), โครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม(Enlaw), มูลนิธิผสานวัฒนธรรม(CrCF), ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น และศูนย์ข้อมูลชุมชน

---------

สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ 
อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย 
ฐานะสมาชิกคณะรณรงค์แก้ไข ม.112 (ครก.112) 

นวันที่ 1 มี.ค. เวลา 12.00 น. กลุ่มโดมรวมใจ ประมาณ 10-20 คนจะเดินทางไปให้กำลังใจนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ที่คณะ หลังจากโดนกลุ่มคนทำร้าย เบื้องต้นตามข่าวทราบว่ากลุ่มที่ทำร้ายนายวรเจตน์ เป็นกลุ่มคนที่เคยร่วมกิจกรรมเผาหุ่น เพื่อคัดค้านกิจกรรมของกลุ่มนิติราษฎร์

หากเป็นจริงเท่ากับว่าเป็นกลุ่มที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน และนายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นแกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ โดยข้อเท็จจริงบุคคลทั้ง 2 อาจไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ในความเห็นที่แตกต่าง ควรแสดงออกด้วยการพูดคุย ไม่ใช่ใช้กำลังทำร้าย

การคุกคามนี้ ไม่ได้ทำให้ครก.112 กลัวและหยุดเดินหน้าล่าชื่อประชาชนเพื่อร่วมสนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่อย่างใด สำหรับท่าทีของกลุ่มขณะนี้ยังไม่ได้หารือ แต่คิดว่าจะออกแถลงการณ์ประณามการกระทำที่ป่าเถื่อน ซึ่งถือว่าเป็นการที่คุกคาม และไม่ถูกต้องในการแสดงออก



วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 01:59 น.  ข่าวสดออนไลน์

 



ไม่มีความคิดเห็น: