วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กวป.กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


 

                       รูปภาพ


ความใจจากทีมงานของสมาชิก กวป. คนหนึ่งพูดถึงการต่อสู้ของคนเสื้อแดงไว้ว่า

 


ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อใคร
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อเงิน
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพราะถูกครอบงำ
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงสู้เพราะหวังนโยบายประชานิยม
ไม่ว่าใครจะมองว่าคนเสื้อแดงเป็นแค่สู้เพื่อตัวเองก็ตาม

แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นคือ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงสู้เพื่อความเท่าเทียม

สู้เพื่อความเสมอภาคและนั่นคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงไม่เข็ดหลาบ แม้จะถูกสลายการชุมนุมในปี 52
ดังนั้นคนเสื้อแดงยิ่งทวีคูณขึ้นมากมาย หลังจากถูกเข่นฆ่าในปี 53

เพราะนี่เป็นอุดมการณ์ที่ไม่ได้หวังเงินเยียวยา แต่สิ่งที่หวัง จึงเป็นเพียงหวังให้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยไม่ถูกครอบงำด้วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คณะใดคณะหนึ่ง

สิ่งที่คนเสื้อแดงมุ่งหวัง เพียงแค่อยากได้รัฐบาลมาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่
สิ่งที่คนเสื้อแดงคาดหวัง อยากกำหนดทิศทางของประเทศด้วยตัวของประชาชนเอง

และก็เชื่อด้วยว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ได้สมหวังกับการบริหารของรัฐบาลไปเสียทั้งหมด
และก็เชื่อด้วยว่า คนเสื้อแดงก็ไม่ได้ดังหวังกับรัฐมนตรีชุดนี้ในหลายคน

เพียงแต่เมื่อเป็นรัฐบาลที่มาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ จำต้องปล่อยให้รัฐบาลบริหารไปตามครรลองของประชาธิปไตย เมื่อหมดวาระแล้วค่อยปล่อยให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ ประชาธิปไตยจึงจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ ไม่ใช่ล้มลุกคลุกคลานไม่เจริญเติบโตสักที เพราะมักถูกตัดตอนด้วยการรัฐประหารเสมอมา

การตรวจสอบก็จำเป็นต้องมี เรื่องทุจริตก็จำเป็นต้องตรวจสอบ แต่ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องดูแล ควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของมัน

ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า มันมีการทุจริตมหาศาล
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า ระบอบทักษิณมันเลวร้าย
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า ประเทศชาติจะล้มละลาย
ไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า พวกนั้นมันจะขายชาติ
และไม่ใช่ออกมาขับไล่ เพียงเพราะมีคนบอกว่า พวกนั้นจะมาล้มสถาบัน

เพราะการขับไล่รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่นั้น มันไม่เหมือนกับการร่วมแรงร่วมใจกันขับไล่อำนาจของเผด็จการนะ ดังนั้นต่อให้ขับไล่รัฐบาลสำเร็จ ทำให้รัฐบาลต้องยุบสภา แต่เลือกตั้งใหม่ รัฐบาลชุดนี้ก็คงกลับเข้ามาใหม่ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป หรือว่าจะขับไล่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ กลายเป็นการขัดขวางการทำงานของรัฐบาลไปเสียฉิบ แล้วก็โยนความผิดให้กับรัฐบาลที่ไม่สามารถนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

หรือจะให้กองทัพเข้ามามีอำนาจแทนอำนาจประชาชน อย่างน้อยก็เห็นแล้วว่า คนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยก็ไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้น แล้วความวุ่นวายก็จะไม่มีทางหมดสิ้น เราต้องการอย่างนั้นหรือ

หลายๆท่านคิดถึงแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตระกูลชินวัตร โดยละเลยที่จะคิดต่อไปว่า การทำรัฐประหารต่างหากครับที่สร้างความหายนะให้กับประเทศมากกว่า และยังเป็นการตัดตอนการพัฒนาประชาธิปไตยไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน มันคุ้มหรือไม่ลองคิดดู

ถ้าปล่อยไปตามครรลองของประชาธิปไตยเฉกเช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
แม้ว่าจะมีข้อครหามากมายเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด
แม้ว่าจะทำให้ประเทศอับอายไปทั่วโลก กรณีเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก
แม้ว่าจะทำให้กรุงเทพน้ำท่วมมากมาย เพราะอุโมงค์ยักษ์ทำงานไม่ได้สมราคาคุย
แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องต่อสัญญาล่วงหน้า 17 ปีของบีทีเอส ก็ปล่อยให้ดีเอสไอเขาไปฟ้องกันเอง
แม้ว่าจะไม่มีผลงานมาอวดโชว์ได้ การหาเสียงเลยต้องใช้วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นนโยบายในการหาเสียง

แต่เมื่อคนกรุงเทพยังอยากให้ผู้ว่าฯคนเดิมมาบริหารต่ออีก 4 ปี ด้วยคะแนนเสียงล้านสอง ดังนั้นล้านเสียงของคนเสื้อแดงก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯคนเดิมบริหารต่อไป จนกว่าจะครบอีกสี่ปี แล้วค่อยมาคัดเลือกกันใหม่

ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะเผด็จการสภา กทม.
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะมีเรื่องทุจริตมากมาย
ไม่เคยคิดจะขับไล่ เพราะได้คะแนนอย่างไม่ชอบธรรม

เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า เผด็จการรัฐสภานั่นคือความต้องการของคนส่วนใหญ่
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า การทุจริตปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
เพราะคนรักประชาธิปไตย ย่อมรู้ดีว่า เรื่องการใส่ร้ายป้ายสีอยู่ในมือของ กกต.แล้ว

สุดท้ายจะถูกดองเอาไว้ตามเคยหรือท้ายสุดนายทะเบียนอาจยุติเรื่องไม่สืบสวนต่อ แต่เมื่อเป็นไปตามกติกา คงทำได้แค่ทวงถาม แล้วปล่อยให้ผู้ว่าฯบริหารจนหมดวาระ กทม.จะได้เดินหน้าต่อ ความวุ่นวายเพราะไม่เคารพกติกาก็ไม่เกิด นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตยไง

หรือแม้กระทั่งผลโพลที่มักจะผิดพลาดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อมาสำรวจในกรุงเทพ ที่มีผู้ว่าฯและ สก.สข.ของอีกพรรคเป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ก็ตาม แต่เมื่อไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ คนเสื้อแดงก็ไม่เคยคิดจะประท้วงหรือขับไล่ด้วยวิธีการใส่ความเอาไว้ก่อน แล้วหาหลักฐานกันทีหลังหรอกนะ นี่จึงเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นประชาธิปไตยที่คนเสื้อแดงฝันถึง มีกติกาแล้วต้องเคารพ ประเทศจึงจะเดินหน้าได้

สิ่งที่จะบอกก็คือ ขอเพียงแต่พวกท่านมาตามกติกา ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ คนเสื้อแดงก็พร้อมจะยอมรับการบริหารจากพวกท่าน และที่คนเสื้อแดงจะทำได้ก็คงแค่คอยตรวจสอบการทำงานของพวกท่านอย่างใกล้ชิดแค่นั้นเอง ไม่ใช่ไปลากเอาระบอบอะไรก็ไม่รู้มาโยง แล้วบอกว่าจะล้มล้างให้หมดประเทศ ปัญญาอ่อนเกินไปแล้วล่ะแบบนั้น

ดังนั้นพวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกจ้องล้มสถาบันเลย
พวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกคนไทยหัวใจต่างชาติเลย
พวกท่านอย่าคิดผลักไสคนเสื้อแดงเป็นพวกด้อยคุณภาพที่ต้องกำจัดเลย

เพราะความอยากได้อำนาจ ถึงกับกันคนที่ไม่เห็นด้วยออกไปอย่างนี้ มันรังแต่จะสร้างความแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด แล้วพวกท่านจะสังเวยสุขอยู่กับความแตกแยกได้อย่างนั้นหรือครับ กลับตัวกลับใจมาสร้างสรรค์ผลงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติดีกว่า เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศยอมรับในพวกท่าน ดีกว่าการกระทำที่แล้วๆมา

เพระคนเสื้อแดงก็เป็นคนไทยเหมือนๆกับพวกท่าน มีความรักในสถาบันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพวกท่าน มีความรักชาติไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน เพียงแต่มีความรักในประชาธิปไตยมากกว่าพวกท่านแค่นั้นเอง

ใครจะคิดว่า นี้เป็นการอวยพวกเดียวกันก็คิดได้ แต่มีหลายสิ่งที่อยากบอกก็คือ
คนเสื้อแดงมีขึ้นมา ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน
คนเสื้อแดงรวมตัวกัน ไม่ใช่เพื่อคนๆเดียว
คนเสื้อแดงยอมตาย ไม่ใช่เพื่อหวังเงินเยียวยา

แต่ที่คนเสื้อแดงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ จึงเป็นเพียงต้องการเหมือนๆกับประชาชนทั้งหลายในโลก นั่นคือความเป็นประชาธิปไตย และต้องเป็นประชาธิปไตยแบบสากลด้วยนะ

ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบไทยไทย
ไม่ใช่ประชาธิปไตยในคราบเผด็จกา

และต้องไม่ใช่ประชาธิปไตยที่อำนาจทุกอย่างขึ้นอยู่กับองค์กรอิสระทั้งหลายอย่างทุกวันนี้ อำนาจที่พร้อมจะย่ำยีอำนาจของประชาชนอย่างไม่เกรงใจด้วยคนเพียงไม่กี่คน

หลายคนอาจเห็นชอบด้วย แต่ต้องไม่ใช่คนเสื้อแดง ที่มีจุดยืนแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นเสื้อแดงที่จะแดงไปทุกแห่งห
เป็นเสื้อแดงที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสีเสื้อ
เป็นเสื้อแดงที่ไม่จะเป็นต้องใส่หน้ากาก
เพราะเราเป็นเสื้อแดงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ไม่ต้องอายใครไง

ดังนั้นสำหรับคนไม่มีอุดมการณ์จะไม่มีวันรู้ก็คือ
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมสละเวลา ยอมลำบาก เพื่อให้ได้ถึงฝั่งฝัน
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ยอมสละทุนทรัพย์ส่วนตัว เพื่อนำข้อมูลที่ถูกต้องไปขยาย
คนเสื้อแดงบางกลุ่ม รับบริจาคเพื่อแบ่งปันความสุขให้กับคนทุกข์ยาก
คนเสื้อแดงบางกลุ่มยอมเสี่ยงตายตั้งเต๊นท์เพื่อช่วยเหลือพยาบาลผู้ชุมนุม ตอนถูกไล่ยิง

และคนเสื้อแดงบางกลุ่มยังพร้อมยอมตายเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พึ่งจะมีโอกาสได้รับรู้แม้จะเป็นเสื้อแดงมาหลายปีก็ตาม ซึ่งเมื่อเห็นซึ้งถึงการต่อสู้ของพวกเขาเหล่านั้น การต่อสู้ของผมทางอินเตอร์เน็ต จึงเป็นเพียงการต่อสู้ที่ดูด้อยค่าไปถนัดเลยนะ

เพราะการกระทำของพวกท่าน เป็นการกระทำของวีรชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนดังวีรชนของประเทศที่มีอารยะทั้งหลายกระทำมาแล้วทั้งสิ้น

เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับเผด็จการ
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับอำนาจมืด
เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนมือเปล่ากับความอำมหิตของเผด็จการและยังเป็นการต่อสู้ระหว่างความหวังใหม่กับความเชื่อเก่าอีกด้ว

ดังนั้นจึงอยากให้กำลังใจกับคนเสื้อแดงทุกๆท่าน เมื่อวานพวกเขายังไม่เห็น วันนี้พวกเขายังไม่เห็น และพรุ่งนี้ก็อย่าหวังว่าพวกเขาจะมองเห็น แต่เชื่อแน่ว่า อนาคตทุกคนต้องเห็นพ้องต้องกันอย่างแน่นอนว่า พวกท่านสู้เพื่อพวกเราทั้งหมดจริงๆ เพราะธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอมาไงล่ะ

 

 

 


                         

                         โดย    Kanitha


 


 

ความผิดพลาด คือ บทเรียน

" ความผิดพลาด คือ บทเรียน แต่อย่าให้บทเรียนนั้นมาทำลายเราเป็นครั้งที่สอง " ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะรับผิดชอบความผิดพลาดของเราเอง ด้วยการรวมตัว รวมพลัง กล้าแก้ไขสิ่งที่ผิด ถึงแม้การรวมตัวของพวกเราให้เป็นเอกภาพจะเป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่แท้ที่จริงโดยธรรมชาติมนุษย์ คือ สัตว์โขลง หรือ การอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เหมือนช้าง เหมือนม้า เสือ สิงโต หรือแม้แต่นก ถ้าแยกออกจากฝูงก็อันตราย และต้องมีผู้นำฝูง ไม่ต่างจากกัน 

การรวมกลุ่มเป็นเรื่องยาก แต่บทเรียนมีให้เห็นกันแล้ว ต่อแต่นี้คงเหลือแต่ค้นหาผู้นำ และซึ่งความจริงเราจะรู้จักการรวมกลุ่มกันตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว นั่น ก็คือ พรรคพวก และในหมู่พรรคพวกที่สนิทกัน เวลาจะไปเที่ยวหรือจะทำกิจกรรมอะไร หรือจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง จะมีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้นำ และให้สังเกต เขาคนนั้น คือ ผู้ที่ทำประโยชน์ได้ดีมากกว่าหมู่ 

ถ้าเป็นช่วงที่ ผู้ทำประโยชน์ได้มากกว่าหมู่ ยังไม่ชัดเจน จะเป็นช่วงอาการไม่ยอมรับกัน และจะเกิดอาการแข่งขันชิงความเป็นผู้นำกัน โดยอาจจะไม่รู้ตัว จะเกิดภาพความขัดแย้ง และโจมตีกัน ตามอารมณ์และอุบายต่าง ๆ จนกว่าใคร ภาพของงานจะออกมา ดีกว่าชัดเจน จึงจะเกิด การยอมรับ นี้เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติ

"ค่าของคนวัดกันที่ผลของงาน" "ไกลทางรู้กำลังม้า กาลเวลารู้น้ำใจคน" ดังนั้น การรวมกลุ่ม ผู้นำที่ดีจะหนีไม่พ้นการเรียนรู้ความอดทน และต้องทนต่อความขมขื่น ผู้ที่ยังไม่พร้อมก็ต้องยอมตามไปก่อน ซึ่งเป็นเรื่องปรกติเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรีและทางออกของการที่ยังไม่ยอมรับกัน ก็ต้องอาศัย การประชุม เพื่อเจรจา แลกเปลี่ยนแชร์ความคิด ซึ่งกันและกัน ค้นหาข้อสรุป เพื่อการเปลี่ยนแปลง และเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ร่วมกัน โดยอาศัยมติเสียงส่วนใหญ่ เป็น อำนาจสูงสุด นี้เรียกว่า " ประชาธิปไตย "

" ความผิดพลาด คือ บทเรียน แต่อย่าให้บทเรียนนั้นมาทำลายเราเป็นครั้งที่สอง "

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะรับผิดชอบความผิดพลาดของเราเอง ด้วยการรวมตัว รวมพลัง กล้าแก้ไขสิ่งที่ผิด ถึงแม้การรวมตัวของพวกเราให้เป็นเอกภาพจะเป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่แท้ที่จริงโดยธรรมชาติมนุษย์ คือ สัตว์โขลง หรือ การอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เหมือนช้าง เหมือนม้า เสือ สิงโต หรือแม้แต่นก ถ้าแยกออกจากฝูงก็อันตราย และต้องมีผู้นำฝูง ไม่ต่างจากกัน

การรวมกลุ่มเป็นเรื่องยาก แต่บทเรียนมีให้เห็นกันแล้ว ต่อแต่นี้คงเหลือแต่ค้นหาผู้นำ และซึ่งความจริงเราจะรู้จักการรวมกลุ่มกันตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว นั่น ก็คือ พรรคพวก และในหมู่พรรคพวกที่สนิทกัน เวลาจะไปเที่ยวหรือจะทำกิจกรรมอะไร หรือจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง จะมีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้นำ และให้สังเกต เขาคนนั้น คือ ผู้ที่ทำประโยชน์ได้ดีมากกว่าหมู่

ถ้าเป็นช่วงที่ ผู้ทำประโยชน์ได้มากกว่าหมู่ ยังไม่ชัดเจน จะเป็นช่วงอาการไม่ยอมรับกัน และจะเกิดอาการแข่งขันชิงความเป็นผู้ นำกัน โดยอาจจะไม่รู้ตัว จะเกิดภาพความขัดแย้ง และโจมตีกัน ตามอารมณ์และอุบายต่าง ๆ จนกว่าใคร ภาพของงานจะออกมา ดีกว่าชัดเจน จึงจะเกิด การยอมรับ นี้เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมชาติ
"ค่าของคนวัดกันที่ผลของงาน" "ไกลทางรู้กำลังม้า กาลเวลารู้น้ำใจคน" ดังนั้น การรวมกลุ่ม ผู้นำที่ดีจะหนีไม่พ้นการเรียนรู้ความอดทน และต้องทนต่อความขมขื่น ผู้ที่ยังไม่พร้อมก็ต้องยอมตามไปก่อน ซึ่งเป็นเรื่องปรกติเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรีและทางอ อกของการที่ยังไม่ยอมรับกัน ก็ต้องอาศัย การประชุม เพื่อเจรจา แลกเปลี่ยนแชร์ความคิด ซึ่งกันและกัน ค้นหาข้อสรุป เพื่อการเปลี่ยนแปลง



 และเพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ร่วมกัน โดยอาศัยมติเสียงส่วนใหญ่ เป็น อำนาจสูงสุด นี้เรียกว่า " ประชาธิปไตย "



 


โดย  ดาด้า แดงจันทบูร
          28/6/56



เวรกรรมของประชาชน ศาลปกครองกลาง" สั่งชะลอโครงการน้ำ


"ศาลปกครองกลาง" สั่งชะลอโครงการน้ำ - นำโครงการกลับไปทำกระบวนการรับฟังเสียงประชาชน

                                                           

>>>รายละเอียดข่าว

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

DSI ยื่นให้ฟ้องศาล-คดี อภิสิทธิ์ - สุเทพ ฆ่า"พัน คำกอง"กับ"น้องอีซา" ปชป.ยังแถจะฟ้องกลับ ธาริต

 มาดูความหน้าด้านของนายอภิสิทธิ์และคนพรรค ปชป. ทำผิดชัดเจนแต่ยังมีหน้ามาข่มขู่จะฟ้องกลับ ธาริต อ้างเพื่อรักษาสิทธิ์ ช่างไร้จิตสำนึกผิดชอบชั่วดีจริงๆครับ 
........แบบนี้มันน่าจะตั้งข้อหาข่มขู่เจ้าพนักงานอีกกระทง.....

ที่มาข่าวจากไทยรัฐ ...นายอภิสิทธิ์ ยังย้ำว่า DSI ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนคดีดังกล่าว เพราะเป็นการแจ้งข้อหาในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  >>>> รายละเอียดข่าว

 DSIนัดอภิสิทธิ์-สุเทพพบอัยการเหตุสั่งสลายแดง

ทำผิดข้อหาสั่งการฆ่าคนตายชัดเจนเพราะทหารที่ออกมาล้อมปราบสลายการชุมนุมและใช้อาวุธปืนและกระสุนจริงยังคนตายภายใต้คำสั่งของ ศอฉ.ในเดือน เม.ย.-พ.ค.53 เมื่อ DSI รวบรวมพยานหลักฐานได้ข้อมูลชัดเจนแต่ ผู้ตั้งหายังมีหน้ามาฟ้องกลับ เพื่อที่ตนจะได้เลือกคนตัดสินความผิดที่เป็นพวกพ้องของตน โอ้แม่เจ้า...ประเทศไทย ภายใต้อิทธิพลเถื่อนถ่อยของอำมาตย์นี่มันกร่างกันเหลือเกินพวกขี้ข้าอำมาตย์ ..... นี่คดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายเป็นคดีร้ายแรง และสภาพนะมันนี้ก็ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นนายกฯรัฐมนตรีแล้วด้วย ประชาชนคนธรรมดาอย่างผมก็สงสัยจึงไปเปิดดู รธน.50 ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มันมีหน้าที่อะไรบ้าง จึงได้ทราบเนื้อหาดังนี้


๓. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

มาตรา ๒๔๖

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นอีกแปดคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของ วุฒิสภา
กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต้องเป็นผู้ซึ่งมีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๐๕ โดยเคยเป็นรัฐมนตรี กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงิน แผ่นดิน หรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางบริหารในหน่วยราชการ ที่มีอำนาจบริหารเทียบเท่าอธิบดี หรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าศาสตราจารย์ ผู้แทนองค์การพัฒนาเอกชน หรือผู้ประกอบวิชาชีพที่มีองค์กรวิชาชีพตามกฎหมายมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบปี ซึ่งองค์การพัฒนา เอกชนหรือองค์กรวิชาชีพนั้นให้การรับรองและเสนอชื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหา
การสรรหาและการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้นำบท บัญญัติมาตรา ๒๐๔ วรรคสามและวรรคสี่ มาตรา ๒๐๖ และมาตรา ๒๐๗ มาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้มีคณะกรรมการสรรหาจำนวนห้าคนประกอบด้วยประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ให้ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ให้มีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด โดยคุณสมบัติ กระบวนการ สรรหา และอำนาจหน้าที่ ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต

มาตรา ๒๔๗

กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีวาระการดำรง ตำแหน่งเก้าปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่

การพ้นจากตำแหน่ง การสรรหา และการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐๙ และมาตรา ๒๑๐ มาใช้บังคับ โดยอนุโลม

มาตรา ๒๔๘

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิก ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน มีสิทธิ เข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาว่ากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติผู้ใดกระทำการ ขาดความเที่ยงธรรม จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือมีพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียแก่ เกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอย่างร้ายแรง เพื่อให้วุฒิสภามีมติให้พ้นจากตำแหน่ง
มติของวุฒิสภาให้กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพ้นจากตำแหน่ง ตามวรรคหนึ่ง ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

มาตรา ๒๔๙

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภา มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า กรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติผู้ใดร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
คำร้องขอตามวรรคหนึ่งต้องระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่าผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว กระทำการตามวรรคหนึ่งเป็นข้อๆ ให้ชัดเจน และให้ยื่นต่อประธานวุฒิสภา เมื่อประธานวุฒิสภา ได้รับคำร้องแล้ว ให้ส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อพิจารณาพิพากษา

กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติผู้ถูกกล่าวหา จะปฏิบัติหน้าที่ ในระหว่างนั้นมิได้ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ยกคำร้องดังกล่าว

ในกรณีที่กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ตามวรรคสาม และมีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเหลืออยู่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทั้งหมด ให้ประธานศาลฎีกาและประธาน ศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติเป็นการชั่วคราว โดยให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งได้จนกว่ากรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ตนดำรงตำแหน่งแทนจะปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือจนกว่าจะมีคำพิพากษา ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าผู้นั้นกระทำความผิด

มาตรา ๒๕๐

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเกี่ยวกับการถอดถอน ออกจากตำแหน่งเสนอต่อวุฒิสภาตามมาตรา ๒๗๒ และมาตรา ๒๗๙ วรรคสาม

(๒) ไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทั้งทำความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา ๒๗๕

(๓) ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงหรือข้าราชการซึ่งดำรง ตำแหน่งตั้งแต่ผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าขึ้นไปร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม รวมทั้ง ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือข้าราชการในระดับต่ำกว่าที่ร่วมกระทำความผิดกับผู้ดำรงตำแหน่ง ดังกล่าวหรือกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือที่กระทำความผิดในลักษณะที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเห็นสมควรดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

(๔) ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สิน และหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา ๒๕๙ และมาตรา ๒๖๔ ตามบัญชีและเอกสารประกอบ ที่ได้ยื่นไว้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กำหนด

(๕) กำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

(๖) รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่พร้อมข้อสังเกตต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทุกปี ทั้งนี้ ให้ประกาศรายงานดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาและเปิดเผย ต่อสาธารณะด้วย

(๗) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๑๓ มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วยโดยอนุโลม
ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมตามกฎหมาย

มาตรา ๒๕๑

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีหน่วยธุรการ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่เป็นอิสระ โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้บังคับบัญชาขึ้นตรงต่อประธานกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
การแต่งตั้งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ต้องได้รับ ความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและวุฒิสภา
ให้มีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นหน่วยงาน ที่เป็นอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

..............................................








เห็นข่าวกันทั้งประเทศว่า DSI ส่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี  และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  อดีตรองนายก ฯ และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)  เป็นผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญา(คลิ๊กอ่าน>>> มาตรา 59,มาตรา80, มาตรา83, มาตรา84 และ มาตรา288, ) แต่มันกลับมาเรียกร้องให้ส่งตัวมันให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นี่มันจะแถหลบไปถึงไหนว่ะ ไอ้บ้ามาร์ค.....


     ยรรยง ลูกชาวดิน
      28 มิ.ย.2556
 



วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เรื่องเล่าชาวเฟช พวกเอ็งรับบัญชาจากใครมา พวกม็อบหน้ากากขาวล้มเจ้า

โดย

 

*************เขาบอกว่า***********

 เขาบอกว่า คนเสื้อแดงชุมนุมปิดราชประสงค์กระทบกับสิทธิผู้อื่นแล้วเขาก็ใส่หน้ากากขาวออกมาเดินชุมนุมที่ราชประสงค์

เขาบอกว่า นายกฯมาจากการเลือกตั้งไม่ชอบธรรม แล้วเขาก็มาขอนายกฯพระราชทาน ม.7

เขาบอกว่า จะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นแล้วเขาก็ออกมาสร้างเงื่อนไขให้ปฏิวัติ
 
*************เขาบอกว่า***********

 เขาบอกว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักประชาธิปไตยแล้วเขาก็จะมาปิดประเทศแช่แข็งนักการเมือง

เขาบอกว่า อาหรับสปริงเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาลเผด็จการแล้วเขาก็มาตั้ง ไทยสปริงชุมนุมออนไลน์ขับไล่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง

เขาบอกว่า คนส่วนใหญ่ทนไม่ไหว แล้วเขาก็ออกมาแต่พวกคนหน้าเดิม

เขาบอว่า รัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงขาลงแล้ว    เขาก็ไม่ยอมรอให้รัฐบาลครบวาระ
*************เขาบอกว่า***********

 เขาบอกว่า การสร้างสนามบินสุวรรณภูมิมีการทุจริตมากมายในสมัยรัฐบาลทักษิณ  แล้วเขาก็บอกว่า รัฐบาลทักษิณเป็นแค่มาฉาบปูนและทาสี

เขาบอกว่า ไม่สมควรคืนหนี้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด  แล้วเขาก็บอกว่า คุณทักษิณแอบอ้างเอาความชอบ

เขาบอกว่า ปรส.ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลชวลิต   แล้วเขาก็บอกว่า การขายสินทรัพย์ราคาถูกในสมัยชวนไม่ผิด

เขาบอกว่า เคยพยายามแอบเจรจากับโจรใต้     แล้วเขาก็บอก การเจรจาเป็นการยกระดับให้โจรใต
 
*************เขาบอกว่า***********

 เขาบอกว่า ผลโพลความนิยมของรัฐบาลกำลังตกต่ำอย่างต่อเนื่อง  แล้วเขาไม่เชื่อ ผลโพลที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้รัฐบาลอยู่ต่อ

เขาบอกว่า อับอายที่นายกฯไปพูดเรื่องรัฐประหารในไทย  แล้วเขาก็สนับสนุนให้นายกฯไปฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร

เขาบอกว่า รัฐบาลมาจากการซื้อเสียง     แล้วเขาก็มาถูกใบแดงเพราะซื้อเสียง

เขาบอกว่า ยึดมั่นในระบบรัฐสภา    แล้วเขาก็สนับสนุนให้ประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาล

เขาบอกว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ์ที่ทำได้     แล้วเขาก็ใช้อาวุธสงครามออกมาปราบปรามประชาชน
 

 

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

หมวด ๒ พระมหากษัตริย์


มาตรา ๑๔ ข้อห้ามสำหรับองคมนตรี


องคมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง และต้องไม่แสดงการฝักใฝ่ในพรรคการเมืองใด ๆ


คลิ๊กอ่าน >>>"เปรม" ดีใจ ประเทศไทยได้นายกฯชื่อ "อภิสิทธิ์"


คลิ๊กอ่าน >>> สุริยะใส" ย้ำ"ป๋าเปรม" อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ


มาตรา ๑๘ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์


ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จะได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

มาตรา ๑๙ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตาม[[#มาตรา ๑๘|มาตรา ๑๘]] หรือในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่สามารถทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพราะยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะหรือเพราะเหตุอื่น ให้คณะองคมนตรีเสนอชื่อผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาประกาศในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง
มาตรา ๒๐ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ในระหว่างที่ไม่มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา ๑๘|มาตรา ๑๘] หรือ [มาตรา ๑๙|มาตรา ๑๙] ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

ในระหว่างที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือในระหว่างที่ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคสอง ประธานองคมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นประธานองคมนตรีมิได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน


>>>> องค์รัชทายาท มีตั้งมากมายทำไมต้องแต่งตั้งประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนล่ะครับ
 

รัฐธรรมนูญมาตรา 309 มีอะไรผิดปกติ

                                     
                                      
 
                                           เสื้อแดง,กวป.,มาตรา309

ตามที่กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) นำโดย นายชาญ ไชยยะ รองประธาน กวป. และนายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป. พร้อมกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เข้ายื่นหนังสือถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านนางอรรถพร เลาหสุรโยธิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารทั่วไป สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ว่ามาตรานี้ได้สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนและประเทศไทยย่างไร เพราะเหตุใดคณะตุลาการฯ จึงละเลย มาตรา 309 และข้อให้ชี้แจงด้วยว่า มาตรา 309 เป็นกฎหมายที่นิรโทษกรรมให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (คปค.) และองค์กรอิสระที่ตั้งมาโดยมิชอบ ใช่หรือไม่ เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งยุติการตรวจสอบสอบ กรณีเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยบริษัทอีสวอเตอร์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

นายชาญ กล่าวว่า ตนเห็นว่าการบริจาคเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นไปอย่างไม่โปร่งใส ส่อว่าเป็นการทุจริต เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องตั้งคำถามกับ กกต.ว่าเหตุใดจึงสั่งระงับการตรวจสอบ อีกทั้งกรณีที่ กกต.มีมติให้ใบแดงนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เนื่องจากได้ปราศรัยใส่ร้ายผู้สมัครพรรคอื่น แล้วการที่พรรคประชาธิปัตย์ปราศรัยใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย ตอนหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่าเผาบ้านเผาเมืองนั้น กกต.จะใช้มาตรฐานเดียวกับกรณีนายการุณในการตัดสินหรือไม่ ทุกวันนี้ปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศ ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากประชาชน แต่เกิดเพราะองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างไม่มีมาตรฐาน มีความคลุมเครือ ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ และไม่มีความเป็นกลาง ดังนั้น กลุ่ม กวป.จึงเห็นว่าควรยุบองค์กรอิสระทั้งหมด เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ  >>> (ข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจวันที่ 11 มิถุนายน 2556)


ข้อความในรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ข้อความที่ระบุว่า
บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและ การกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้" มันแปลไทยเป็นไทยว่ารัฐธรรมนูญมาตรานี้มีไว้เพื่อคุ้มครองเผด็จการครับเผด็จการที่ออกมายึดอำนาจ ทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิมปี 2540 และตามมาด้วยการออกกฏหมายที่ปกป้องการกระทำของตนเอง
 ซึ่งนั่นก็แปลว่า มีการสอดไส้ "นิรโทษกรรม" ให้ผู้ที่ทำการปฏิวัติยึดอำนาจไปจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบันและอนาคต ประกาศ คปค. , คำสั่ง คปค. และการกระทำตามประกาศหรือคำสั่งเหล่านั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญไว้ในมารตรา 309 ทั้งหมด ซึ่งในเมื่อรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ศาลทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง หรือศาลยุติธรรม จึงไม่อาจตรวจสอบ ประกาศ คปค. , คำสั่ง คปค. หรือการกระทำตามคำสั่งหรือประกาศนั้นได้ แม้โดยเนื้อหาของประกาศหรือคำสั่งเหล่านั้นจะไม่ชอบ หรือการกระทำตามประกาศหรือคำสั่งจะไม่ชอบ แต่มาตรา 309 ได้รับรองไว้ก่อนแล้วว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ สิ่งที่ตามก็คือ แม้จะมีการฟ้องคดีไปที่ศาลว่ามีการกระทำตามประกาศ คปค. ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิตามที่รัฐธรรมนูญรับรองซึ่งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่ศาลก็ไม่อาจจะตรวจสอบได้เลย นอกจากวินิจฉัยเป็นปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าไม่อาจรับคดีนี้ไว้ตรวจสอบหรือวินิจฉัยว่าการกระทำนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้วเพราะมีการรับรองเอาไว้แล้วว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ  

******  ซึ่งประขาขนอย่างเราถ้าไม่โง่เขาจนเกินไปเหมือนคนบางกลุ่มก็เข้าใจอย่างจะแจ้งว่า ******
บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ของ หัวหน้าและคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือของผู้ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิงจะมีบุคคลบางกลุ่มลอยนวลอยู่เหนือเงื้อมือกฏหมายบ้านเมืองแล้ว ยังมีบุคคลอีกกลุ่มที่ถูกเล่นงานอย่างไม่ยุติธรรมและไม่มีทางตอบโต้และฟ้องร้องกลับคืนได้แม้ว่าสิ่งที่ถูกกระทำไปนั้นจะถูกกลั้นแกล้งใส่ร้ายมาโดยตลอดก็ตามที แต่หมดสิทธิ์ที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมกลับคืนมาได้