โดย พ่อจูม่ง จาก
"มาตรา
309 บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว
ไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้
ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้"
รัฐ ธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (ฉบับถาวรที่ 18) พ.ศ.2550 มาตรา 309 อ้างถึงรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ฉบับที่ 17 (พ.ศ.2549) ซึ่งมีบทนิรโทษกรรมอยู่ในมาตรา 37
"มาตรา 37 บรรดาการกระทำทั้งหลาย ซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ของหัวหน้าและคณะ...(คปค.หรือ คมช.) ...ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดย สิ้นเชิง"
นี่คือการไฟเขียวไว้ก่อนว่าในอนาคตไปทำอะไรก็ไม่ผิด ถ้าพูดให้สุดขั้ว คือให้ไฟเขียวไว้ก่อนว่าคุณไปยิงใครตายก็ได้ ทำอะไรก็ไม่ผิดไง ทั้งก่อนและหลัง” ไม่รู้ว่าเขียนกฎหมายแบบ มาตรา 309 นี้ได้ไง ไม่ควรเป็นนักกฎหมายเลย
ได้ฟังหนุ่มโคราช พูดถึงมาตรา 309 บนเวทีกวป.แล้ว ทำให้รู้ว่ามันเป็นจุดสำคัญที่สุดที่ปกป้องฝ่ายอำมาตย์เอาไว้ และตอนนี้ได้มีการส่งสัญญานจากเวทีกวป.ให้ยกเลิกมาตรานี้ และจะเคลื่อนขบวนไปทวงถามพรรคเพื่อไทยและสภาต่อไป
จากเนื้อหาในมาตรา 309 จะเห็นว่ามันเป็นยันต์มหาอุด ครอบจักรวาล สำหรับฝ่ายต่อต้านประชาธิไตย
ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันรณรงค์ ให้ยกเลิก ก็เท่ากับว่าส่งเสริมระบอบเผด็จการไปโดยปริยายนั่นเอง
ประเด็นการยกเลิกมาตรา 309 นี้ ถ้าพวกเราได้สังเกตดูการเคลื่อนไหวทั้งจากฝ่ายเพื่อไทย นปช. หรือฝ่ายเผด็จการ
ไม่ค่อยจะมีใครอยากเอามาขยายผลมากนัก ทั้งที่เป็นมาตราสูงสุดที่รับประกันว่าฝ่ายเผด็จการทำอะไรก็ไม่ผิด
ถ้าจะวิเคราะก็อาจมองได้ว่ามีการซูเอี๋ย ไม่ให้เพื่อไทยแตะต้อง แลกกับการไม่ถูกเตะตัดขาเขี่ยทิ้ง
แม้แต่นปช.ยุคป้าย่น โดย อ.ธิดา ยังถึงกับเป็นใบ้ หันเหไปเน้นจัด เต้น โคโยตี้ แทน บนเวทีนปช.
ยิ่งนานไป คนดูชักจะเบื่อ เริ่มจับทางได้ มันก็เลยคล้ายกับดูลิเก คณะ ป้าย่น นปช. ไปซะงั้น
อยากจะเรียกเพื่อไทยและนปช. ในขณะนี้ ว่าเป็น "พวกหลงผิด" คิดว่าส้มจะหล่นจากฟ้า ก็น่าจะได้
2 ปีที่ผ่านมา "พวกหลงผิด" จึงตั้งหน้ารอคอย และคลานหาส้มหล่น จนหัวเข่าด้านไปตามๆกัน
ลิเกเรื่อง ICC ที่จัดฉากซะจนซับซ้อน จบแบบคนดูนั่งตาเหลือก เสียค่าตั๋วดูแบบโง่ๆมาถึง 3 ปี
จนมีดในมือของ พระเอกอย่าง โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม เป็นสนิมจนเกือบหมดด้าม ก็ยังไม่ได้ฟันสักฉับ
มาตรา 309 นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่พวกเราควรจะต้องจับตามองด้วยอีกครั้งว่า เพื่อไทยจะเอายังไงกันแน่
มันจะทำให้พวกแดงนักรบไซเบอร์อย่างพวกเรากลายเป็นไอ้งั่งไปอีกครั้ง ที่ถูกพวกเดียวกันหลอก 555
อยากจะรอเพื่อไทยหรือ ป้าย่น นปช. ออกมารำแหกตาก่อน หรือจะร่วมกับกวป. ก็ตัดสินใจให้ดีๆ
เพราะตอนนี้กวป. กลุ่มวิทยุชุมชน ได้วิเคราะห์และตาสว่างขึ้นมาอีกระดับแล้วว่า
"มาตรา309 นี่แหละที่เป็นลิ้นหัวใจของพวกเผด็จการเลย และต้องถูกกำจัดทิ้งเสียโดยไว "
เหล่าเสื้อแดง ที่อ้างว่าเป็นนักรบเลือดเข้มทั้งในโลกจริง โลกออนไลน์ และสารพัดโรค
พวกท่านจงวิเคาะห์และตัดสินใจครับว่า จะสู้จริงหรือแค่ดราม่าสร้างภาพไปเรื่อยๆ ให้เผด็จการมันนั่งหำ เอิ๊กๆ
รัฐ ธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (ฉบับถาวรที่ 18) พ.ศ.2550 มาตรา 309 อ้างถึงรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ฉบับที่ 17 (พ.ศ.2549) ซึ่งมีบทนิรโทษกรรมอยู่ในมาตรา 37
"มาตรา 37 บรรดาการกระทำทั้งหลาย ซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ของหัวหน้าและคณะ...(คปค.หรือ คมช.) ...ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดย สิ้นเชิง"
นี่คือการไฟเขียวไว้ก่อนว่าในอนาคตไปทำอะไรก็ไม่ผิด ถ้าพูดให้สุดขั้ว คือให้ไฟเขียวไว้ก่อนว่าคุณไปยิงใครตายก็ได้ ทำอะไรก็ไม่ผิดไง ทั้งก่อนและหลัง” ไม่รู้ว่าเขียนกฎหมายแบบ มาตรา 309 นี้ได้ไง ไม่ควรเป็นนักกฎหมายเลย
ได้ฟังหนุ่มโคราช พูดถึงมาตรา 309 บนเวทีกวป.แล้ว ทำให้รู้ว่ามันเป็นจุดสำคัญที่สุดที่ปกป้องฝ่ายอำมาตย์เอาไว้ และตอนนี้ได้มีการส่งสัญญานจากเวทีกวป.ให้ยกเลิกมาตรานี้ และจะเคลื่อนขบวนไปทวงถามพรรคเพื่อไทยและสภาต่อไป
จากเนื้อหาในมาตรา 309 จะเห็นว่ามันเป็นยันต์มหาอุด ครอบจักรวาล สำหรับฝ่ายต่อต้านประชาธิไตย
ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันรณรงค์ ให้ยกเลิก ก็เท่ากับว่าส่งเสริมระบอบเผด็จการไปโดยปริยายนั่นเอง
ประเด็นการยกเลิกมาตรา 309 นี้ ถ้าพวกเราได้สังเกตดูการเคลื่อนไหวทั้งจากฝ่ายเพื่อไทย นปช. หรือฝ่ายเผด็จการ
ไม่ค่อยจะมีใครอยากเอามาขยายผลมากนัก ทั้งที่เป็นมาตราสูงสุดที่รับประกันว่าฝ่ายเผด็จการทำอะไรก็ไม่ผิด
ถ้าจะวิเคราะก็อาจมองได้ว่ามีการซูเอี๋ย ไม่ให้เพื่อไทยแตะต้อง แลกกับการไม่ถูกเตะตัดขาเขี่ยทิ้ง
แม้แต่นปช.ยุคป้าย่น โดย อ.ธิดา ยังถึงกับเป็นใบ้ หันเหไปเน้นจัด เต้น โคโยตี้ แทน บนเวทีนปช.
ยิ่งนานไป คนดูชักจะเบื่อ เริ่มจับทางได้ มันก็เลยคล้ายกับดูลิเก คณะ ป้าย่น นปช. ไปซะงั้น
อยากจะเรียกเพื่อไทยและนปช. ในขณะนี้ ว่าเป็น "พวกหลงผิด" คิดว่าส้มจะหล่นจากฟ้า ก็น่าจะได้
2 ปีที่ผ่านมา "พวกหลงผิด" จึงตั้งหน้ารอคอย และคลานหาส้มหล่น จนหัวเข่าด้านไปตามๆกัน
ลิเกเรื่อง ICC ที่จัดฉากซะจนซับซ้อน จบแบบคนดูนั่งตาเหลือก เสียค่าตั๋วดูแบบโง่ๆมาถึง 3 ปี
จนมีดในมือของ พระเอกอย่าง โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม เป็นสนิมจนเกือบหมดด้าม ก็ยังไม่ได้ฟันสักฉับ
มาตรา 309 นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่พวกเราควรจะต้องจับตามองด้วยอีกครั้งว่า เพื่อไทยจะเอายังไงกันแน่
มันจะทำให้พวกแดงนักรบไซเบอร์อย่างพวกเรากลายเป็นไอ้งั่งไปอีกครั้ง ที่ถูกพวกเดียวกันหลอก 555
อยากจะรอเพื่อไทยหรือ ป้าย่น นปช. ออกมารำแหกตาก่อน หรือจะร่วมกับกวป. ก็ตัดสินใจให้ดีๆ
เพราะตอนนี้กวป. กลุ่มวิทยุชุมชน ได้วิเคราะห์และตาสว่างขึ้นมาอีกระดับแล้วว่า
"มาตรา309 นี่แหละที่เป็นลิ้นหัวใจของพวกเผด็จการเลย และต้องถูกกำจัดทิ้งเสียโดยไว "
เหล่าเสื้อแดง ที่อ้างว่าเป็นนักรบเลือดเข้มทั้งในโลกจริง โลกออนไลน์ และสารพัดโรค
พวกท่านจงวิเคาะห์และตัดสินใจครับว่า จะสู้จริงหรือแค่ดราม่าสร้างภาพไปเรื่อยๆ ให้เผด็จการมันนั่งหำ เอิ๊กๆ
กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญบนเส้นทาง 3 แพร่ง เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ล่าสุดผ่านการออกมาแสดงทัศนะของแกนนำพรรคเพื่อ ไทยอย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ว่าควรแก้ไขเป็นรายมาตรา แม้จะยังไม่ใช่ข้อเสนอที่สะเด็ดน้ำ แต่ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ยังคงเปิดกว้างเสมอ เพราะจะว่าไปแล้ว เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรานั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือนปช.ก็เคยปักธงการ แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรามาแล้วถึง 30 หัวข้อด้วยกัน
การแถลงข่าวของนปช.เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 ในระยะแรกของกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.ได้ประกาศเป้าหมายการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนปช. เอาไว้ที่ 10 หัวข้อดังนี้
1.ยกเลิกมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญ 2550
2.ยกเลิกมาตรา 36 และ 37 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2549
3.ยกเลิกส.ว.แต่งตั้ง
4.แก้มาตรา 265 และ 266 ของรัฐธรรมนูญ 2550
5.แก้มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องการทำสนธิสัญญา
6.แก้มาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องการยุบพรรค
7.เพิ่มเติมเรื่องอำนาจตุลาการต้องเกี่ยวโยงกับอำนาจอธิปไตยของประชาชน
8.การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้โดยตรงโดยประชาชน
9.ถอดถอน ส.ส., นักการเมือง องค์กรอิสระทำได้โดยตรงโดยประชาชน
10.เสนอกฎหมายได้โดยตรงโดยประชาชน
โดยเฉพาะการพุ่งเป้ายกเลิก มาตรา 309 ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ที่กำหนดไว้ว่าบรรดาการใด ๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศ ใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้
เพิ่มน้ำหนักให้มีความชัดเจนมากขึ้น ในประเด็นที่ 2 ว่าด้วยการเสนอยกเลิกมาตรา 36 และ 37 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2549 ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวเนื่องกับการรับรองความถูกต้องคณะปฏิรูปฯ ดังนี้
มาตรา 36 บรรดาประกาศและคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ได้ประกาศหรือสั่งในระหว่างวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 จนถึงวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้
ไม่ว่าจะเป็นในรูปใดและไม่ว่าจะประกาศหรือ สั่งให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ ให้มีผลใช้บังคับต่อไปและให้ถือว่าประกาศหรือคำสั่ง ตลอดจนการปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งนั้นไม่ว่าการปฏิบัติตามประกาศ หรือคำสั่งนั้นจะกระทำก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นประกาศ หรือคำสั่งหรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ขณะที่มาตรา 37 ซึ่งมีรายละเอียดว่า บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจ การปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 ของหัวหน้าและคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมตลอดทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว หรือ ของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือของผู้ซึ่งได้รับคำสั่ง จากผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้า หรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันได้กระทำไป เพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น
การกระทำดังกล่าว ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการรวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่าง อื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อน หรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดย สิ้นเชิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น