วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

สัญญาณอันตราย...เตรียมพร้อมปราบกบฏ...มันเอาแน่

เรื่องเล่าชาวเน็ต


 ......ไม่มีวันถอย...ไม่ก้มหัว....ไม่มีกราบกราน
......กูจะไม่ยอมให้มึงเอาปืนจอหัว....อีกต่อไป
......กูจะไม่ยอมให้ตุลากวยหัวคานมันเอาตีนเหยียบหัวอีกต่อไป
......ใครจะยอมก็ช่างแม่งมัน..แต่กูจะอยู่สู้กับมึง

การโค้นล้มเผด็จการ...โดย ปชช มีอยู่แนวทาง 2 แนวทางหลัก :

1....ใช้แนวทางปฏิรูป....ด้วยการต่อสู้เรียกร้องโดยใช้สันติวิธี..ค่อยเป็นค่อยไป
......โดยหวังว่าเผด็จการจะยอมคืนอำนาจมาให้ประชาชนโดยสันติวิธี..แต่โดยทั่วไปแล้ว
......ปชช จะถูกเผด็จการเข้าปรามปรามและเข่นฆ่า..ต้องเสียชีวิตและเลือดเนื้อไปจำนวน
......มากมาย..โอกาสที่จะชนะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากอาจต้องรอกันถึงชั่วอายุคนนับเป็น100 ปี

2....ใช้แนวทางปฏิวัติ....โดยการที่ ปชช รวมตัวกันเป็นม๊อบอย่างเข้มแข็ง..เข้ากดดัน
.......ฝ่ายเผด็จการ...จะมีการใช้กำลังเข้าประหัตประหารกันอย่างรุนแรงทั้งสองฝ่าย..จนนำไป
.......สู่สงครามกลางเมือง...ทำให้สูญเสียชีวิตและไพร่พลมากมาย...ฝ่ายไหนที่มีกำลัง มวลชน
.......และอาวุธที่เหนือกว่า...ก็จะเป็นฝ่ายชนะ....ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นๆ
.......การขับไล่ระบอบเผด็จการทั่วทั้งโลก..ส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการปฏิวัติโดย ปชช ทั้งสิ้น..

==================================================================================

ขอขยายเป็นแนวทางใหม่ คือ :

3....แนวทางปราบกบฏ....ในรูปแบบการปกครองในระบอบกึ่ง ปชต กึ่งเผด็จการที่เป็นอยู่ขณะนี้
.......ปชต..ในรูปแบบนี้จะล้มลุกคลุกคลานมาตลอด...เพราะเป็น ปชต ที่แฝงอำนาจเผด็จซ่อนรูปกำกับ
.......และควบคุมอยู่เบื้องหลัง...โดยมีกองกำลังทหารและตุลากาล..เป็นเครื่องมือและฐานอำนาจ
.......เมื่อฝ่าย ปชต เริ่มจะแข็งแรงพัฒนาไปข้างหน้า...ก็จะเกิดมีการรัฐประหารเกิดขึ้นทุกครั้งไป
.......แล้วก็เริ่มตั้งต้นนับหนึ่งกันใหม่ซ้ำซาก...อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้....

.......ทำไมถึงต้องเรียกว่า..แนวทางปราบกบฏ....ก็เพราะว่าอำนาจรัฐฯในรูปแบบ ปชต ได้ตกมาอยู่
.......ในมือของรัฐบาลฝ่าย ปชช แล้ว..แต่ในขณะเดียวกันอำนาจแฝงก็เข้ามากดดันอย่างหนักตลอดเวลา
.......เพื่อหว้งที่จะมีการช่วงชิงอำนาจกลับคืนไป...โดยการพยายามทำรัฐประหารหรือก่อกบฏขึ้นนั่นเอง...
.......เมื่อเกิดการกบฏ..ก็ต้องถูกปราบปรามเป็นไปตามหลักสากล...ที่ใครจะมาล้มล้างอำนาจ ปชต ที่มาจาก
.......ปวงชนมิได้เป็นอันขาด...และการกบฏจะมีโทษถึงประหารชีวิต....
.......เพราะฉะนั้นภาค...ปชช...จึงต้องรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น...เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการก่อกบฏ
.......ที่กำลังจะเกิดขึ้นค่อนข้างจะแน่นอนเร็วๆนี้...ให้จับตา..เมษา..นี้เป็นต้นไป..อย่ากระพริบตา

รูปแบบในการเตรียมพร้อมรับมือกับโจรกบฏ...มีข้อปฏิบัติดังนี้ :

1.......ให้มวลชน...ปชต...ทั้งหมดสมัครเข้าเป็นกองกำลังอาสาสมัครป้องกันชาติและพิท้กษ์ประชาธิปไตย
.........โดยที่ไม่มีการเรียกร้องผลประโยชน์จากรัฐใดๆทั้งสิ้น...จึงไม่ต้องมีงบประมาณมาสนับสนุน
.........รัฐฯสามารถจัดตั้งขึ้นได้ทันที..โดยออก พรก..หรือ พรบ...รองรับให้ถูกต้องตากฏหมาย.
.........รัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งกองกำลังอาสาสมัคร ปชช ขึ้น..เช่น.ลสชบ..ทสปช..เป็นต้น
2.......ให้มีการฝึกฝนในภาคปฏิบัติเพื่อต่อต้านการกบฏได้ทุกรูปแบบ...ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธจริง...ใช้เพียง
.........วัสดุดัมมี่จำลอง...เช่นไม้หรือพลาสติด...ใช้เป็นเครื่องมือในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสม
3.......ช่วยกันเปิดเผยความจริงทั้งหมดต่อสาธารณชนทั่วประเทศว่า...ระบอบเผด็จการจะเป็นภัยต่อระบอบ
.........ประชาธิปไตยของประเทศอย่างร้ายแรง...การที่ทำให้ ปชช ทั้งประเทศตาสว่างขึ้น..จะเป็นอาวุธ
.........ร้ายแรงชนิดหนึ่งที่จะป้องกันการกบฏได้อย่างมีประสิทธิภาพ..
4.......การกบฏที่มีประชาชนเข้มแข็งจะทำได้ยาก....จะมีกองกำลังกบฎเพียงน้อยนิด...ถ้าใหญ่มากไป
.........การก่อกบฏจะทำได้ยากเพราะความลับจะรั่วไหล.....จึงไม่ยากต่อการปราบปรามและใช้เวลาเพียงสั้นๆ...
.........แต่ภาค ปชช จะต้องเป็นแกนนำหลัก..ผนวกกำลังเข้ากับ..ข้าราชการทหาร..ตำรวจ..และพลเรือนทั้งหมด
.........ที่ยืนอยู่่กับรัฐบาล ปชต ที่ถูกต้องและชอบธรรมให้ได้....จะเป็นผลง่ายต่อการปราบปรามและสูญเสียน้อยที่สุด
5.......ในระบบสื่อสาร..ให้ใช้ดาวเทียม KU-Band และ Internet (มันจะปิดกั้นได้ไม่นานเพราะเป็นสื่อสารหลัก
.........ของโลกไปแล้ว) เป็นเมนหลักในการติดต่อข่าวสารกับทางรัฐบาล....งบอุปกรญ์ดาวเทียมประมาณ 3000 บาท
.........เตรียมตัวหาข้อมูล....ตำแหน่งและมุมกัม-เงย..ของดาวเทียวจากประเทศเพือนบ้านไว้ให้พร้อม
..........ในกรณีที่...สถานีดาวเทียวไทยคมถูกกบฏยึด...รัฐฯจำเป็นต้องหันไปใช้ดาวเทียวของเพื่อนบ้านแทน.

.......ในขณะเดียวกันประเทศนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากมาย..เพียงแค่เมืองหลวงถูกยึดครองเป็นพื้นที่
.......ขนาดเล็กมาก..ไม่มีผลต่อรัฐบาลโดยรวมทั้งประเทศ...รัฐบาลยังมีพื้นที่ครอบครอง...ทั้งเหนือและอีสาน
.......ทั้งหมดกว่าค่อนประเทศ....โดยมี ปชช เป็นฐานรองรับ...จึงยังคงความเป็นรัฐบาลอยู่ได้ตามหลักสากล
.......ทุกประการ....โดยมีต่างชาติ...และ UN ให้การสบับสนุนเหมือนเดิม...และรัฐฯยังมีอาวุธสำคัญคือ พรบ
.......ความมั่นคง ประกาศกฏอัยการศึก..เข้าควบคุมกลไกของรัฐฯได้ทุกหน่วยงานทั่วทั้งประเทศ...สามารถออก
.......คำสั่งระดมพล..ข้าราชการ ตำรวจ ทหารประจำการและกองหนุนรวมไปถึงอาสาสมัคร..ปชช ทั้งประเทศ
.......ทั้งหมด...เข้าร่วมปราบปรามกบฏและสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ของรัฐฯ...ได้อย่าง
.......ถูกต้องตามกฏหมาย...รวมไปถึงการเสียชีวิตของข้าศึกด้วย...จึงเป็นโอกาสของพวก
.......ฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย..ที่เฝ้ารอคอยกันมานานจะได้ออกกำลังกันเสียที...

...................ผมจึงขอเรียกแนวทางที่ 3 นี้ว่า......แนวทางปราบกบฏ.....ไม่ใช่แนวทางปฏิวัติแน่นอน
...................จึงขอให้แดงทุกแดงทั้งประเทศ....จงเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเมื่อถึงเวลาอันวิกฤติ....ถึงอย่างไร..
...................พวกมันหนีไม่พ้นที่จะทำการก่อกบฏยึดอำนาจรัฐฯ....ตามสันดานโจรชั่วที่ทำกันมาตลอด...

สรุป : รัฐบาลจะอยู่ได้ก็เพราะ ปชช เป็นฐานกำลังค้ำจุนเท่านั้น...และในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องไม่ทิ้ง ปชช
..........เช่นกัน...การที่จะหนีออกไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น....จะเป็นความคิดที่โง่เขลาเบาปัญญา...และเป็นวิสัย
..........ของคนขี้ขลาดพึงกระทำกัน..เมื่อ ปชช ไม่ทิ้งรัฐฯ..แล้วรัฐฯจะทิ้ง ปชช ได้อย่างไร....จึงขอฝากเรียน
..........ถามไปถึง...ข้าราชการ...ตำรวจ...และทหารแตงโม...ทั่วทั้งประเทศว่า..เมื่อมีการกบฏเกิดขึ้น...
..........ท่านทั้งหลาย..จะฟังคำสั่งของพวกโจรกบฏที่ผิดกฏหมาย..หรือจะฟังคำสั่งอันถูกต้องและชอบธรรม
..........ของรัฐบาล......และแน่นอนที่สุดตามธรรมชาติของมนุษย์จะยึดถือความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลัก..
..........และปฏิเสธอำนาจโจรนอกระบบ...และเชื่อได้ว่า..พวกโจรกบฏจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้..และคนชั่ว
..........จะถูกปราบปรามราบคาบสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทยในที่สุด...../
.=======================================================
จึงขอถาม...คนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินว่า :

ท่าน.....จะสู้........หรือ........จะหนีตาย.....?

by : getoutcoup


 

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

อีกมิติหนึ่งของการระบายความอึดอัด

ที่มาจาก ไทยอีนิวส์ 3 มีนาคม 2556


ถึง ประยุทธ จันทร์โอชา
จาก RED USA: ทำไมวลีอันไร้ค่าจึงออกจากปากเจ้า
คำพูดอันเนื่องมาจากคำให้สัมภาษณ์ของเจ้า
หลังรายการตอบโจทก์ "ซี่รี่ 5" ที่สมศักดิ์กับศิวลักษณ์ปะทะปัญญากันทางทีวี
ให้ชาวบ้านร้านช่องได้รู้ถึงเหตุ รู้ถึงผล ซาบซึ้งถึงความเป็นมาและตระหนักถึงสิ่งที่จะเป็นไป

แต่เจ้ากลับตะเพิดพวก (ที่เจ้าอ้างว่า)ไม่เอาเจ้า แก้ ม.112 ให้ออกไปจากประเทศไทยนั้น
มันรับไม่ได้จริงๆ มันกร่างเกินไป เพราะถ้าเทียบอาวุโสและซีกับบรรดาข้าราชการทั่วไปแล้ว
เจ้าอาจมีตำแหน่งแค่อธิบดีเท่านั้น ยังไม่ถึงระดับปลัดกระทรวงด้วยซ้ำ
ดังนั้นจงอย่าทำตัวกร่างให้มากนัก

ที่เจ้ามีตำแหน่งเป็นถึง ผบ.ทบ. และผู้คนให้ความเกรงกลัวเจ้าทั้งแผ่นดินนั้น เจ้าจงพึงสำเหนียกไว้ว่า
ความเกรงกลัวของคนทั้งแผ่นดินมิได้เกิดจากคุณงามความดีที่เจ้ากระทำ และก็มิได้ก่อเกิดจากผลงานของเจ้า
ที่คนเกรงกลัวเพราะเจ้ามีปืน และมีกองกำลังทหาร

ทั้งอาวุธและกองกำลังทหาร
ล้วนถูกจัดหาจัดซื้อมาด้วยภาษีของประชาชนทั้งนั้น

มันฟังดูบาดหู มองดูแล้วขัดตา ทั้งขัดความรู้สึกและขัดใจประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากอาวุธที่เจ้าถือ กองกำลังที่เจ้าครอบครอง เงินเดือนที่เจ้าได้รับ งบลับที่กลายเป็น "งบเรา"
กลับถูกนำมาใช้กดขี่เข่นฆ่าประชา

ข้อความที่กล่าวในวรรคต้นเจ้าก็รู้มิใช่หรือว่า มันเป็นความจริง เพราะฉะนั้น
อย่าดูถูกประชาชน อย่าขับไล่ประชาชนเหมือนหมูเหมือนหมาให้ไปอยู่ที่อื่น
เพราะบ้านหลวง รถหลวง น้ำมันหลวงและอีกสารพัดที่เป็นของหลวงที่เจ้าและพวกเจ้าใช้เสวยสุขกันอย่างฟุ่มเฟือยนั้น
มันมาจากค่าภาคหลวง
ซึ่งก็คือ "ภาษี" ที่เก็บมาจากประชาชนทั้งนั้น
รวมทั้งที่ดินที่เจ้าซุกหัวนอนก็เป็นของประชาชน

คำขวัญที่พวกเจ้าและกองกำลังของเจ้าติดไว้ทุกค่ายคูประตูหอรบว่า
"เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" มานานนับชั่วอายุคนนั้น มันไม่เคยให้ความสำคัญต่อประชาชนเลยจริงๆ
ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายในการทำป้ายและคำขวัญนั้นก็มาจากภาษีของประชาชน
เพิ่งมาไม่กี่ปีนี้หรอกที่พวกเจ้าเริ่มมีลางสังหรณ์ ได้กลิ่นสาปสางว่าประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
เจ้าจึงเพิ่มคำขวัญเป็น"เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน"

แต่คำขวัญก็คือคำขวัญ เพราะมันไม่เคยเป็นจริงในทางปฏิบัติ เพราะถ้าเจ้า และคนอย่างเจ้า"เห็นหัวประชาชน"จริง
คงไม่ลากอาวุธยกพลนับหมื่นมาไล่ล่า ลั่นกระสุนปลิดชีวิตประชาชนมือเปล่ากลางกรุงหรอก เจ้าว่าจริงไหมประยุทธ

เจ้ารู้ตัวหรือเปล่าว่าเจ้าได้สุมไฟกองใหญ่ให้เกิดการแตกแยกครั้งใหม่
ที่ใหญ่กว่าเก่าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ด้วยคำสัมภาษณ์เพียงไม่กี่คำของเจ้า
อยากจะยืมวลีอมตะของประธานศาลตลก.มาให้เจ้าได้ทบทวนอีกสักรอบว่า
"เจ้าแกล้งโง่หรือว่าโง่จริงๆ"

เจ้ารู้หรือเปล่าที่ "สถาบัน"เสื่อมเป็นเพราะคนอย่างเจ้าที่ไม่รู้จักแยกแยะผิดถูก
เอาข้อหา "หมิ่นสถาบัน"ไปใส่ร้ายกล่าวหาปรปักษ์ทางการเมืองและผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตย
จับบุคคลที่ถูกกล่าวหาใส่ขื่อตีตรวน ควบคุมกักขังโดยไม่เปิดโอกาสให้แก้ข้อกล่าวหา
ทั้งๆที่ข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง

เจ้ารู้ไหมว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหาด้วย "ข้อหาหมิ่น"โดยไม่เป็นธรรมและถูกจองจำอย่าง"ไร้มนุษยธรรม"นั้น
พวกเขามีครอบครัว มีพี่มีน้อง มีญาติสนิทมีมิตรสหาย และมีประชาชนที่รักความเป็นธรรมเฝ้ามองดูอยู่ด้วยจิตใจหดหู่
ประยุทธเจ้าจงรู้ไว้ว่ายิ่งคนอย่างพวกเจ้ากล่าวหาและจับกุมคุมขังประชาชนผู้รักเสรีภาพด้วยข้อหา "หมิ่นสถาบัน"มากเท่าใด
เจ้าก็จะเพิ่มจำนวนคนที่หดหู่กับการกระทำของคนอย่างเจ้ามากขึ้นเท่านั้น
พร้อมถมทับทวีคูณด้วยจำนวนคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายและประชาชนผู้รักความเป็นธรรม
และนั่นคือการนำไปสู่ความ "ล่มสลาย" ของสถาบัน
ตอนนี้เจ้ารู้แล้วหรือยังว่าคนอย่างสมศักดิ์คนอย่างศิวลักษณ์เค้ารัก "สถาบัน"มากกว่าเจ้า
ถ้าเจ้ายังไม่เข้าใจ ก็จะบอกให้เอาบุญ (บุญที่จะบอกให้เจ้ารับรู้นี้มิได้มีจุดประสงค์ก้าวล่วงบุคคลใดหรือผู้หนึ่งผู้ใด)
นั่นคือเจ้าและคนอย่างพวกเจ้า ที่คำก็อ้าง "พ่อของแผ่นดิน"คำก็อ้าง "แม่ของแผ่นดิน"นั้น
เจ้าหารู้ไม่ว่าคนอย่างพวกเจ้าได้นำเอา "พ่อของแผ่นดินและแม่ของแผ่นดิน"มาผูกติดกับการกระทำที่ต่ำช้าของคนอย่างเจ้านะประยุทธ

มีพ่อแม่ที่ไหนทำร้าย เข่นฆ่าลูกของตนเอง อย่าว่าแต่การจับกุมตีตรวนคุมขังเลย
ประยุทธอยากถามเจ้าว่าถ้ามีพ่อแม่หรือที่พวกเจ้าชอบอ้างว่า"พ่อของแผ่นดินแม่ของแผ่นดิน"ทำร้ายเข่นฆ่าประชาชน
ซึ่งเปรียบเสมือนลูก ด้วยข้อหา "หมิ่น" ตามมาตรา 112 อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยปัจจุบัน เจ้าคิดว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร
ดังนั้นอย่าไปโทษประชาชนต้องโทษคนอย่างเจ้า
และคำว่า "สถาบันเสื่อม" "หมิ่นสถาบัน" และคำว่า "ล้มเจ้า"
ล้วนเป็นวาทะกรรมที่คนอย่างพวกเจ้าประดิษฐ์ประดอยกันขึ้นมาเองทั้งนั้นประชาชนคนทั่วไปหาได้รับรู้ไปกับคนอย่างพวกเจ้าไม่

การที่เจ้าอ้างถึงอดีตนั้น เจ้าต้องอ้างให้ถูกเพราะในอดีตไม่เคยมีประชาชนแอบอ้าง "สถาบัน"เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
นอกจากคนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปตะโกนในโรงหนังว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง"
ซึ่งเป็นต้นแบบให้คน "คลั่งเจ้า"อย่างเจ้าและพวกเจ้าเอาเป็นเยี่ยงอย่างมาจนปัจจุบัน เจ้าคงรู้ใช่ไหมประยุทธ

ประยุทธถ้าเจ้าต้องการอ้างอดีต พูดถึงประวัติศาสตร์เจ้าต้องศึกษาให้รู้จริงว่าคนที่เอาเลือดทาแผ่นดินรักษาประเทศแห่งนี้ไว้
คือประชาชนที่พวก "เจ้า" เรียกว่า "ไพร่" นั้นได้ผูกผ้า ประเจียด" คาด "ตะเบงมาน" ออกรบทั้งหญิงและชาย
เอาชีวิตไปสังเวยเพื่อให้คนอย่างเจ้าได้อยู่ดีกินดีอย่างในปัจจุบันไง ไม่ใช่ทหารอย่างพวกเจ้า ที่เอาแต่กอบโกยกัดแทะกระดูกประชาชน
ถ้าเอาคดีความกันจริงๆในข้อหาร่ำรวยผิดปรกติคงมีนายทหารเป็นผู้ต้องหานับพันราย
ดังนั้นก็จงอย่าได้คิดทวงบุญคุณกับประชาชนว่าทหารคือรั้วของชาติ

ประยุทธเจ้าจบจาก จปร. เป็นนายร้อยห้อยกระบี่จนได้ปรับยศเป็นนายพลในปัจจุบันเจ้าคงรู้ความเป็นมาของทหารประจำการ
และกองกำลังที่ก่อตั้งกันอย่างเป็นทางการว่ามีขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ออกรบกี่ครั้ง แพ้ ชนะกี่ครั้ง ใช่ไหม
แต่เจ้ารู้ไหมว่าประชาชนเค้าไม่เคยจำได้เลยว่าทหารไทยเคยรบในสงครามใดเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
นอกจากเป็นทหารรับจ้างไปตายแทนทหารต่างชาติในสมรภูมินอกประเทศให้บรรดาเจ้านายที่เป็นนายพันนายพลกินหัวคิวกันพุงปลิ้น

แต่ที่ประชาชนรู้คือทหารไทยรบแพ้ลาว ทหารไทยกลัวทหารเขมรอย่างหนูกลัวแมว
และที่ประชาชนจำได้ไม่มีวันลืมคือทหารไทยรบชนะนักศึกษามือเปล่าเมื่อ 14 ตุลาคม 2516
ฆ่านักศึกษามือเปล่าตายเป็นเบือเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 ไล่เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าเมื่อ 17 กันยายน 2535
ถล่มประชาชนเมื่อวันสงกรานต์ 13 เมษายน 2552 เข่นฆ่าสังหารหมู่ประชาชนกลางเมืองหลวงระหว่าง
วันที่ 10 เมษายน 2553 ถึง วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย บาดเจ็บกว่า 2 พันคน
จับประชาชนไปจองจำอีกนับร้อย ยังไม่นับที่ถูกตามล่าตามฆ่าอีกมากมาย
และถ่วงรั้งความเจริญของประเทศทุกครั้งที่ประเทศเริ่มพัฒนา ประชาชนเริ่มมีกินมีใช้ด้วยการทำรัฐประหาร
การทำรัฐประหาร 18 ครั้งในช่วงเวลาประมาณ 70 ปีที่ผ่านมาคือสติถิที่ไม่มีประเทศใดทำได้

วรรคข้างต้นคือผลงานของทหารไทยที่ประชาชนจำได้
ทหารไทยที่ประยุทธประกาศว่าเป็นทหารของพระราชา



หมายเหตุ ที่มาของบทความ dangdd.com/threads/ประยุทธ-จันทร์โอชา-ต้องอ่าน.9052/

http://thaienews.blogspot.com/2013/03/blog-post_21.html