ก่อนจะติดความประพฤติของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงต่อไปย้อนไปทบทวนความเห็นของอดีตสมาชิกพรรคที่ลาออกไปกันอีกสักครั้ง ว่าคนที่เคยอยู่ในพรรคนั้นมาเขารู้เขาเห็นและรู้สึกอย่างไรที่ลาออก
ความของหนังสือลาออก มีใจความ ดังนี้
....กราบเรียนท่านหัวหน้าพรรคปร ะชาธิปัตย์
กระผมนายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ประเภทสามัญเลขที่ 43414075 โดยผมได้สมัครเป็นสมาชิกตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2541 ในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์กำลัง จะต้องตกเป็นฝ่ายค้านเพราะความน ิยมกำลังถาโถมไปที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ก็พ ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไป และพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณก็ได้เป็นรัฐบาลสมัยแรก
ตอนนั้นตัวกระผมเองได้หอบหิ้วปร ิญญาตรีและโทกลับมาจากประเทศสหร ัฐอเมริกาภายหลังเหตุการณ์วิกฤต ิเศรษฐกิจไม่นานนัก พร้อมกับความเชื่อที่ว่าคนเราทุ กคนควรมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื ่อสร้างสังคมที่ดี และการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้
ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา นั้น ผมเฝ้าติดตามความเป็นไปของการเม ืองไทยในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ ง ซึ่งไม่เคยมุ่งหวังที่จะเดินเข้ าไปสู่สนามการเมืองแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้กำลังกาย สมอง เวลา และโอกาสเท่าที่มีในการตอบแทนสั งคมบ้างทั้งในฐานะอาจารย์ในมหาว ิทยาลัย หรือนักเขียนมือสมัครเล่นในคอลั มน์หนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายปี
สาเหตุที่ตอนนั้นกระผมตัดสินใจส ่งใบสมัครมาที่พรรคประชาธิปัตย์ แทนที่จะเป็นพรรคไทยรักไทย ซึ่งสมัยนั้นจะมีภาพลักษณ์ที่ทั นสมัยกว่า และกำลังอยู่ในช่วงที่ได้รับควา มนิยมสูงขึ้นทั้งในสังคมเมืองแล ะสังคมชนบท ก็เพราะว่า ตัวผมเองไม่เคยเชื่อเลยว่าเจ้าข องกลุ่มทุนผูกขาดอย่าง พ.ต.ท. ทักษิณจะมีความจริงใจที่จะเสียส ละในการเข้ามาช่วยเหลือประเทศชา ติได้อย่างแท้จริง
แต่มีความเชื่อว่าเนื้อแท้ของกล ุ่มทุนผูกขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งก ับสัมปทานของรัฐมักจะต้องเอารัด เอาเปรียบประชาชนอย่างเป็นธรรมช าติ ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์นั้นเป ็นพรรดการเมืองที่เก่าแก่ยาวนาน มีความเป็นสถาบันการเมืองมากที่ สุดเท่าที่มีอยู่ในสังคมการเมือ งไทย
แต่วันและเวลาสอนให้ผมได้เรียนร ู้ถึงธรรมชาติของการเมืองไทยมาก ขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีความลึ กซึ้งมากกว่าภาพที่คนทั่ว ๆ ไปเห็นอยู่บนเวทีการเมืองที่เป็ นทางการอยู่มากนัก แต่สำหรับผมแล้ว ช่วงเวลาสิบกว่าปีนี้ได้พิสูจน์ ให้เห็นเนื้อแท้ของพรรคประชาธิป ัตย์ได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง และทำให้ผมได้คำตอบมาระยะหนึ่งแ ล้วว่าตัวเองนั้นคิดผิด ซึ่งผมขอประมวลเหตุผลมาประกอบดั งต่อไปนี้
1. พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีวันชนะใ จประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ เพราะขาดความจริงใจมุ่งแต่สร้าง ภาพจอมปลอม ประโยคนี้เป็นสัจธรรมเสมอ มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคประชา ธิปัตย์และน่าจะเป็นจริงตลอดไปด ้วย ตราบใดที่จะยังคงมีพรรคนี้อยู่ใ นเวทีการเมืองไทย เพราะประวัติศาสตร์บอกว่าพรรคปร ะชาธิปัตย์มักจะได้อำนาจรัฐหรือ ได้เป็นรัฐบาลโดยการเพลี่ยงพล้ำ ของพรรคขั้วตรงข้าม และมีพลังอำนาจพิเศษที่มาหนุนอย ู่ตลอด
ดังนั้นลักษณะของพรรคประชาธิปัต ย์จะมักจะเชิดคนที่มีภาพลักษณ์ด ี(สำหรับสังคมไทย) กล่าวคือมักจะเป็นคนที่มีลักษณะ ความสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน หรือมีชาติตระกูลสูง หรือแม้กระทั่งคนมีหน้าตาดี นอกจากนี้อาจจะมีการเชิดชูภาพขอ งความซื่อสัตย์เป็นจุดขาย แต่จะสังเกตได้ว่านั่นมักจะเป็น เพียงหน้าฉากของผู้นำพรรคเท่านั ้น
แต่เบื้องหลังของผู้นำพรรคหรือแ ม้กระทั่งเบื้องหลังหน้ากากอันส วยหรูของผู้นำพรรค ก็มักจะมีบรรดานักการเมืองสกปรก ที่หิวโหยอยู่ข้างหลังอย่างสม่ำ เสมอ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เ คยนำเสนอแนวทางในการบริหารพัฒนา บ้านเมืองอันใดได้เลย ที่ทำอยู่ก็จะมีเพียงนโยบายเฉพา ะกิจ หรือเพื่อการประชาสัมพันธ์หาเสี ยงเท่านั้น มุ่งจะเล่นแต่การเมืองแต่ไม่เคย พัฒนาบ้านเมือง
2. การมุ่งเล่นแต่การเมือง ทำให้บรรดานโยบายของพรรคที่ออกม า ขาดพื้นฐานด้านข้อมูลที่เป็นจริ ง ขาดการศึกษาและวิเคาระห์ถึงปัญห าอย่างลึกซึ้ง ซึ่งความจริงแล้วพรรคประชาธิปัต ย์ถึงแม้ว่าจะเป็นพรรคการเมืองท ี่แก่ที่สุด แต่ก็ไม่เคยมีนโยบายเป็นของตัวเ องมาก่อน บรรดานโยบายของรัฐบาลอภิสิทธิ์ก ็ต้องยอมรับว่าเป็นการคัดลอกและ ดัดแปลงมาจากนโยบายประชานิยมของ พรรคไทยรักไทยในอดีตทั้งสิ้น
แต่น่าเสียใจว่าการคัดลอกดัดแปล งนั้นกลับทำได้ย่ำแย่กว่าสมัยที ่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลเสียอี ก พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจว่าการที ่พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งอ ย่างถล่มทลายเป็นเพราะประชาชนหิ วโหยในผลประโยชน์ ดังนั้นการเข้ามาของรัฐบาลอภิสิ ทธิ์จึงเริ่มต้นด้วยการหว่านโปร ยผลประโยชน์
ตั้งแต่นโยบายแจกเงินกินเปล่าให ้ประชาชนหัวละสองพันบาท แต่จะเห็นได้ว่าการแจกเงินกินเป ล่าเหล่านั้นไม่ได้ทำให้คะแนนนิ ยมของพรรคสูงขึ้น กลับลดลงเสียด้วยซ้ำ เป็นเพราะเหตุใด? ก็เพราะว่าวิธีการแจกเงินสองพัน บาทโดยใช้ฐานข้อมมูลประกันสังคม นั้นไม่สามารถจะนำเงินไปสู่คนยา กคนจนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างแท้ จริง ไปได้แค่เพียงคนชั้นกลางซึ่งมีข ้อมูลอยู่ในทะเบียนฯเท่านั้น นโยบายนี้เหยียบย่ำหัวใจคนยากคน จนที่ส่วนใหญ่ที่ยากไร้ไม่มีที่ ทำกิน ที่อยู่อาศัย จะมีประกันสังคมได้อย่างไร
ในขณะที่นโยบายที่ลอกและสานต่อจ ากนโยบายไทยรักไทยอย่างโครงการห นึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือที่เ รียกกันว่าโอท๊อป ซึ่งภาครัฐเคยจัดงานที่อิมแพคเม ืองทองธานีเป็นประจำทุก ๆ ปี เป็นงานกึ่งตลาดนัดกึ่งแสดงสินค ้า ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่าง ดีทั้งจากผู้ประกอบการขนาดเล็กแ ละขนาดย่อม จากผู้นำเข้าและผู้ส่งออก ตลอดจนจากผู้บริโภคทั่ว ๆ ไป พอรัฐบาลอภิสิทธิ์เข้ามาบริหารก ็ได้ย้ายสถานที่จัดงานมาตั้งอยู ่ใจกลางเมือง ทั้งตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั้งในลานเอนกประสงค์หน้าห้างฯ บริเวณรอบสนามกีฬาแห่งชาติ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมางานโอท็ อปก็ต้องพับฐานลงอย่างน่าเสียดา ย
ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งสถานที่จัดงานกระจัดกระจาย สภาพอากาศที่ไม่อำนวย ทำให้จำนวนคนเข้าชมงานลดน้อยลงอ ย่างมาก ผู้ค้าซึ่งมาจากต่างจังหวัดนอกจ ากจะขายสินค้าไม่ได้ ยังต้องแบกภาระค่ากินนอนเข้าไปอ ีกเพราะอดีตที่เคยอาศัยบริเวณจั ดงานในอิมแพคฯก็ไม่มีค่าใช้จ่าย อะไร หัวอกคนยากคนจนและคนทำมาหากินซึ ่งรัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เคยเข้า ใจและคงไม่มีวันจะเข้าใจได้ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำได้อย ่างเชี่ยงชาญก็คือการใส่ไคล้ทำล ายและช่วงชิงโอกาส ซึ่งล้วนเป็นเกมการเมืองทั้งสิ้ น
3. บริหารไร้ประสิทธิภาพแต่โกงเป็น มาตรฐาน ด้วยนโยบายหว่านผลประโยชน์กับกา รสร้างภาพของรัฐบาลชุดนี้ ทำให้รัฐต้องแบกภาระเพิ่มขึ้นมา กมาย จะเห็นได้ว่ามีการกู้เงินมหาศาล กว่ารัฐบาลใดในอดีตเสียอีก แต่ลำพังการกู้นั้นมิสามารถทำให ้รัฐบาลดำเนินนโยบายไร้ประสิทธิ ภาพเหล่านั้นต่อไปได้มากนัก
รัฐบาลชุดนี้จึงมีกระบวนการสร้า งภาระโดยการรีดภาษีจากคนชั้นกลา งในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าสภาพเศรษฐกิจของประ เทศมีความฝืดเคืองมากขึ้นเป็นลำ ดับ เพราะรัฐบาลนอกจากไม่ส่งเสริมกา รลงทุนภายในประเทศแล้ว กลับบั่นทอนกำลังการบริโภคของปร ะชาชนไปเสียอีกด้วย
ในขณะที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริห ารประเทศ เราก็มักจะได้ยินข่าวการทุจริตม ากขึ้นเป็นลำดับ บรรดาข่าวการทุจริตซึ่งส่วนใหญ่ มาจากนโยบายจัดซื้อจัดจ้างการรั บเหมาก่อสร้างมากมาย ซึ่งมีรูปแบบคลาสสิคโบราณ และน่าจะเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิ ปัตย์ไม่สามารถพัฒนาก้าวข้ามไปไ ด้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฉาวโฉ่เกี่ยว กับ
โครงการนมโรงเรียน โครงการรถเมล์ โครงการต้นกล้าอาชีพของรัฐบาล
ไปจนถึงโครงการรถเมล์BRT อภิมหาโครงการโมโนเรล
โครงการซุปเปอร์สกายวอล์กของกรุ งเทพมหานคร และอื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะที่กฎเหล็ก 9 ข้อที่นายกอภิสิทธิ์ประกาศไว้เม ื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กลับไม่เคยถูกกล่าวถึงอีกเลย
4. ไม่สร้างความปรองดองกลับสร้างคว ามแตกแยก ก็ต้องยอมรับว่าในขณะที่รัฐบาลป ระชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศน ั้น สังคมไทยอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ งอย่างหนัก รัฐบาลประชาธิปัตย์เข้ามาพร้อมก ับการต่อต้านของขั้วตรงข้ามในนา มกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเริ่มก่อรูปมาตั้งแต่หลังเห ตุการณ์รัฐประหารรัฐบาลทักษิณ การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงน ั้นต้องการล้มล้างรัฐบาลประชาธิ ปัตย์และคืนอำนาจแก่อีกขั้วการเ มืองเป็นหลัก
ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้จึงต้องเผชิ ญกับการชุมนุมต่อต้านหลายครั้ง และบ่อยครั้งก็ได้พัฒนาไปถึงการ จลาจล ซึ่งครั้งที่รุนแรงมากที่สุดก็ค ือการเผาเมืองพฤษภาคม2553 ถึงแม้ว่าแก่นแกนของการเคลื่อนไ หวของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ที่พ.ต .ท. ทักษิณ โดยมีแนวร่วมหลายส่วนที่เกี่ยวก ับขบวนการเรียกร้องความเป็นประช าธิปไตย ความเท่าเทียมทางสังคม ฯลฯ
ดังนั้นขบวนการคนเสื้อแดงจึงกลา ยเป็นขบวนการที่ใหญ่และใหญ่มากย ิ่งขึ้น ในขณะที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็เกิดอ าการฝ่อ และเลือกที่จะสร้างความปรองดองก ับขบวนการเสื้อแดงโดยการย่ำยีหล ักการของกฎหมาย ตั้งแต่การที่รัฐบาลไปเป็นแกนเค ลื่อนไหวในการประกันตัวบรรดาแกน นำ ตลอดจนการละเว้นการติดตามทางคดี ของผู้ก่อการเผาสถานที่ราชการ เอกชน ทำลายและปล้นทรัพย์สินในช่วงเหต ุการณ์จลาจล การย่ำยีกฎหมายคือการสร้างความแ ตกแยกอันบาดลึก แต่เป็นที่สงสัยกันอยู่ว่าทั้งน ี้เป็นไปก็เพื่อจะลอยตัว รักษาอำนาจ และสามารถเป็นรัฐบาลต่อไปได้เรื ่อย ๆ หรือเปล่า
5. สิ่งที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เขา พระวิหารแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ข องพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างชัดเ จน เพราะสิ่งที่นายกอภิสิทธิ์ได้เค ยอภิปรายโจมตีในการยื่นยัตติไม่ ไว้วางใจนายนพดล ปัทมะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ต่างประเทศในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชเกี่ยวกับบูรณภาพเหนือด ินแดนรอบตัวปราสาทเขาพระวิหาร กลับกลายเป็นสิ่งที่รัฐบาลอภิสิ ทธิ์ดำเนินการเหมือนกับรัฐบาลพร รคพลังประชาชนและตรงกันข้ามกับส ิ่งที่ตัวเองพูดไว้ในสภาอย่างสิ ้นเชิง
หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์สาม ารถที่จะพูดอะไรก็ได้เพื่อให้เก ิดโอกาสในการที่ตัวเองจะสามารถพ ลิกผันขึ้นมาถือครองอำนาจรัฐอย่ างนั้นหรือ และผลของการบริหารประเทศเกี่ยวก ับเรื่องนี้ยังได้ทำให้ประเทศไท ยดูเหมือนไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศร ี ตกเป็นเบี้ยล่างของบรรดาประเทศเ พื่อนบ้าน จนในที่สุดประเทศไทยก็จะต้องสูญ เสียอธิปไตยเหนือดินแดนไปด้วยเห ตุผลของความโง่เขลาหรือการมีผลป ระโยชน์ต่างตอบแทนก็สุดแล้วแต่ท ี่จะคาดเดาได้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วถ้าศึกษากั นดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการเยี่ยงนี้ทำให้ประเทศช าติและสังคมไทยสูญเสียมาหลายครั ้ง
ล่าสุดก็ครั้งที่ประเทศมีวิกฤติ เศรษฐกิจ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กับกรณี ป.ร.ส. ขายหนี้ของบรรดาไฟแนนซ์ที่รัฐบา ลสั่งปิดลงไปให้กับบรรดากองทุนต ่างชาติ จนทำให้ต่างชาติสามารถกอบโกยผลก ำไรอันมหาศาลไปจากสังคมไทย ทิ้งไว้กับกองศพของคนล้มละลายเป ็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลาง ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อ ม ผลจากการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบา ลครั้งนั้น ทำให้ธนาคารเกือบทุกธนาคารในประ เทศไทยต้องตกเป็นของต่างชาติในท ี่สุด หรือที่คนทั่ว ๆ ไปเค้าเรียกว่าเสียเอกราชทางการ เงินนั่นเอง
ด้วยเหตุผลเบื้องต้นเพียง 5 ประการนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพรรคประชาธ ิปัตย์ไม่เคยมีอุดมการณ์อะไรเพื ่อประโยชน์ของประชาชนและสังคมไท ย พรรคจึงเป็นเพียงมายาภาพหลอกลวง คนที่สิ้นหวังกับการเมืองไทยในช ั่วขณะหนึ่ง ๆ เท่านั้น
ทุกวันนี้เราจะได้เห็นทั้งนายกร ัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแข่งกันขึ ้นป้ายประชาสัมพันธ์ผลงานกันอย่ างบ้าคลั่ง สมกับเป็นการเชิดปี่กลองสู้ศึกใ นเทศกาลเลือกตั้ง แต่กลับไม่เห็นรู้สึกถึงผลงานที ่ออกมาอย่างกับในป้ายโฆษณาแต่อย ่างใด ป้ายโฆษณาเหล่านี้กลับเป็นสิ่งท ี่ตอกย้ำให้ผู้คนซึ่งได้รับความ ลำบากทั้งชาวไร่ชาวนาที่ถูกกดรา คาสินค้าเกษตร ทั้งคนชั้นกลางที่ถูกขูดรีดภาษี อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งกับผู้บริโภคทั่วไปที่ถูกตี หัวจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้นอย่ างไม่เป็นธรรม ได้รู้สึกเจ็บแค้นอย่างเหนือคำบ รรยาย ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งซึ่งหมดศรัทธ าต่อพรรคประชาธิปัตย์ และประสงค์ที่จะลาออกจากสมาชิกพ รรคนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
พรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ
อ้างอิง : http://www.matichon.co.th/
วันที่ 29 มีนาคม 2554
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:14:37 น.
ความของหนังสือลาออก มีใจความ ดังนี้
....กราบเรียนท่านหัวหน้าพรรคปร
กระผมนายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ประเภทสามัญเลขที่ 43414075 โดยผมได้สมัครเป็นสมาชิกตั้งแต่
ตอนนั้นตัวกระผมเองได้หอบหิ้วปร
ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา
สาเหตุที่ตอนนั้นกระผมตัดสินใจส
แต่มีความเชื่อว่าเนื้อแท้ของกล
แต่วันและเวลาสอนให้ผมได้เรียนร
1. พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีวันชนะใ
ดังนั้นลักษณะของพรรคประชาธิปัต
แต่เบื้องหลังของผู้นำพรรคหรือแ
2. การมุ่งเล่นแต่การเมือง ทำให้บรรดานโยบายของพรรคที่ออกม
แต่น่าเสียใจว่าการคัดลอกดัดแปล
ตั้งแต่นโยบายแจกเงินกินเปล่าให
ในขณะที่นโยบายที่ลอกและสานต่อจ
ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งสถานที่จัดงานกระจัดกระจาย สภาพอากาศที่ไม่อำนวย ทำให้จำนวนคนเข้าชมงานลดน้อยลงอ
3. บริหารไร้ประสิทธิภาพแต่โกงเป็น
รัฐบาลชุดนี้จึงมีกระบวนการสร้า
ในขณะที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริห
4. ไม่สร้างความปรองดองกลับสร้างคว
ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้จึงต้องเผชิ
ดังนั้นขบวนการคนเสื้อแดงจึงกลา
5. สิ่งที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์เขา
หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์สาม
ล่าสุดก็ครั้งที่ประเทศมีวิกฤติ
ด้วยเหตุผลเบื้องต้นเพียง 5 ประการนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพรรคประชาธ
ทุกวันนี้เราจะได้เห็นทั้งนายกร
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
พรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ
อ้างอิง : http://www.matichon.co.th/
วันที่ 29 มีนาคม 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น