วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

ขู่ฆ่า‘วรเจตน์-ปิยบุตร’นิติราษฎร์นัดหารือประเมินสถานการณ์


แกนนำนิติราษฎร์แฉมีอีเมล์จากทหารสังกัด พล.1 รอ. ข่มขู่ให้หยุดเคลื่อนไหว อ้างคนในกองทัพเริ่มทนไม่ไหวแต่ยังไม่ปักใจเชื่อเป็นทหารจริงหรือไม่ เผย “วรเจตน์-ปิยบุตร” ถูกคุกคามหนักถึงขนาดขู่เอาชีวิต ผิดหวังสังคมไทยยังไม่พร้อมเปิดรับฟังความเห็นเพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาธิปไตย ยืนยันไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง นำเสนอทุกอย่างตามหลักวิชาการ หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยถือว่าจบ อยากให้คนถืออาวุธทุกกลุ่มอดทนฟังอย่างสันติ เตรียมนัดสมาชิกหารือในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินสถานการณ์และทบทวนท่าทีการเคลื่อนไหว
หลังจากที่คณะนิติราษฎร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฎร เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จนนำไปสู่การรวบรวมรายชื่อประชาชน 10,000 ชื่อ ของคณะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 (ครก.112) เพื่อผลักดันร่างกฎหมายนี้เข้าสู่สภาภายในเวลา 112 วัน รวมทั้งข้อเสนอการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนิติราษฎร์ให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาล กองทัพ และสถาบันทางด้านการเมือง จนเกิดกระแสคัดค้านจากหลายฝ่าย ทั้งจากกองทัพ ฝ่ายการเมือง รวมถึงภาคประชาชนบางกลุ่ม ล่าสุดมีผู้อ้างว่าเป็นทหารจาก พล.1 รอ. ส่งข้อความข่มขู่เข้ามาในอีเมล์ของคณะนิติราษฎร์ระบุว่าสายทหารเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
ผศ.ดร.จันทจิรา เอี่ยมมยุรา อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในแกนนำนิติราษฎร์ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มยังไม่แน่ใจว่าผู้เขียนอีเมล์ที่ส่งมาเป็นทหารจริงหรือไม่ และข้อมูลที่ให้มาเป็นจริงหรือไม่
“ถ้าเป็นทหารจริงและมีแนวคิดอย่างนี้เกิดขึ้นในค่ายทหารจริง อยากชี้แจงว่าคณะนิติราษฎร์เป็นนักวิชาการ เสนอความเห็นตามหลักวิชาการที่ถูกต้องทั้งในหลักสากลและหลักวิชาการที่ศึกษามา เมื่อเห็นว่าอะไรที่ถูกต้องสำหรับสังคมไทยก็เสนอออกมา ทหารหรือกลุ่มใดก็ตามที่มีอาวุธอยากขอให้อดทนฟังความเห็นของเราแบบเป็นพี่น้องกันในสังคม” ผศ.ดร.จันทจิรากล่าวและว่า ข้อเสนอของเราเป็นเพียงความเห็นหนึ่ง หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็ถือว่าจบ ไม่มีผลอะไรต่อความมั่นคงของชาติ ความมั่นคงของสถาบันใด อย่างไรก็ตาม การมีอีเมล์นี้เข้ามาเราถือว่ามีคนที่มีไมตรีจิตกับเราเตือนมาด้วยความหวังดี
ผศ.ดร.จันทจิรากล่าวอีกว่า สมาชิกนิติราษฎร์ไม่มีใครหวาดกลัวกับการข่มขู่ แต่ รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ และ ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล จะเจอหนักกว่าคนอื่นๆ ต้องไปถามทั้ง 2 ท่านว่ากลัวหรือไม่ เพราะมีถึงขู่เอาชีวิต เราไม่ได้ท้าทายแต่ตั้งใจจะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย
“เราเศร้าใจกับการข่มขู่ เพราะสิ่งที่เราเชื่อว่าสังคมไทยพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าไปอย่างสงบสันติ เป็นสังคมที่เปิดกว้างให้ทุกคนทุกฝ่ายมาร่วมกันแสดงความเห็นไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็ยังเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะสามารถเลือกสิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยตัวเอง” ผศ.ดร.จันทจิรากล่าวและว่า ในสัปดาห์นี้สมาชิกในกลุ่มได้นัดหารือเพื่อประเมินสถานการณ์และท่าทีของตัวเองว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิติราษฎร์ได้ออกประกาศถึงประชาชนผ่านเว็บไซต์เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายไม่เห็นด้วยจำนวนมากไม่ได้ตั้งอยู่บนเนื้อหาและหลักวิชาการ แต่มุ่งโจมตีและกล่าวหาตัวบุคคลโดยไร้เหตุผลและพยานหลักฐาน หลายกรณีมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย จนอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อน นิติราษฎร์ขอแจ้งให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับข้อเสนอทราบ และสบายใจว่าข้อเสนอทุกข้อของนิติราษฎร์เป็นเรื่องที่วางอยู่บนหลักวิชาการและอำนาจตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 นั้นไม่ถือเป็นความผิดใดๆทั้งสิ้น มาตรา 112 มีสถานะเป็นเพียงบทบัญญัติแห่งกฎหมายอาญามาตราหนึ่งเท่านั้น จึงย่อมเป็นสิทธิและอำนาจโดยชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนผู้เห็นปัญหาของมาตรานี้จะเข้าชื่อเสนอให้รัฐสภา ซึ่งเป็นเพียงตัวแทนประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงให้ปรับปรุงแก้ไขเสีย
การรวบรวมรายชื่อจะคงดำเนินต่อไปไม่ยุติจนกว่าจะครบ 10,000 ชื่อ ตามกฎหมาย (หรือมากกว่านั้น) โดยแม่งานผู้รวบรวมคือ ครก.112 ทั้งนี้ ผู้เห็นด้วยและประสงค์ลงชื่อ สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ http://www.ccaa112.org/contact-us.html หรือทาง Facebook https://www.facebook.com/ccaa112 กรอกรายละเอียดพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นรับรองสำเนา ส่งไปรษณีย์ไปที่คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 ตู้ ปณ.112 ปณฝ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ 10200
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค แถลงยืนยันว่า ไม่เคยใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยเรื่องต้องการแก้มาตรา 112 แต่มีการแสดงออกต่างกรรมต่างวาระกันของสมาชิกพรรคในที่ต่างๆว่าต้องการแก้ไขอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี (เปิดคลิปยืนยัน)
“การออกมาแสดงท่าทีคัดค้านของพรรคเพื่อไทยเพื่อชิ่งหนีจากนิติราษฎร์ที่ถูกต่อต้านอย่างหนักเท่านั้น หากไม่เห็นด้วยทำไมต้องรอดูกระแสสังคมก่อน จนเห็นว่าไปไม่ได้แล้วจึงออกมาแสดงท่าที”
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกำลังพยายามปล่อยข่าวว่ามีการลงขันกันของ 4 กลุ่มล้มรัฐบาล เพื่อกลบกระแสเรื่องแก้มาตรา 112 ที่เดินเกมพลาดจนถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากคนในสังคม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงยืนยันว่า มีขบวนการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลและใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยเรื่องแก้มาตรา 112 ขอยืนยันอีกครั้งว่าพรรคไม่มีนโยบายแก้ไข ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์จะเอาผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฐานไม่ปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบันนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์และไม่ดูข้อเท็จจริง เพราะตั้งแต่รัฐบาลทำงานมา 5 เดือน ปิดเว็บเหล่านี้ไปแล้วกว่า 60,000 URL และยังคงเร่งปราบปรามอย่างต่อเนื่อง


ไม่มีความคิดเห็น: