วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

"พ.ต."สารภาพขนยา

ค่าจ้าง1ล. เผยจ่าซิป ร่วมแก๊ง เผ่นแล้ว ตร.ค้นคุก
สอบพันตรี - พ.ต.ปิยะณัฐ เกตุจำรัส ทหารช่างกองทัพภาค 3 ถูกนำตัวจาก จ.พิษณุโลก มาสอบสวนที่บก.ปส.3 หลังถูกออกหมายจับคดียาเสพติดร่วมแก๊ง "ฟูเฉิน" ส่วน "จ่าซิป" ลูกน้องหลบหนีไปก่อนแล้ว ตามข่าว
ตร.ตามล็อกตัว "พันตรีปิยะณัฐ" ผู้ต้องหาร่วมขบวนการยาเสพติดพันล้านถึง 'ค่ายบรมไตรโลกนาถ' จังหวัดพิษณุโลก ก่อนนำขึ้น ฮ.เข้ามาสอบขยายผลต่อในกรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ขนยาจากเชียงรายมาส่งที่กทม. ได้ค่าจ้างจาก 'นิพนธ์ กันชาติ' 1 ล้านบาท ส่วน 'จ่าซิป' ลูกน้องร่วมแก๊งเผ่นหนีไปแล้ว 'ประยุทธ์' ผบ.ทบ. ว้ากลั่นกองทัพไม่เลี้ยงทหารไม่ดี ถ้านายใดไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ตำรวจจับกุมดำเนินคดีสูงสุดได้เลย ส่วนกรณีทหารเก่ายศ 'พล.ท.' ออกบัตรกอ.รมน.ให้เครือข่าย 'ฟูเฉิน' ขอยืนยันว่าใช้การอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ทั้งยังผิดกฎหมายอีกด้วย

จากกรณีตำรวจตรวจพบยาบ้าและยาไอซ์มูลค่ากว่าพันล้านบาท ซุกอยู่ในบ้านเดี่ยวหมู่บ้านสัมมากร จ.ปทุมธานี ของนางจริญญา หาญณรงค์ หรือลูกตาล อดีตรองนางสาวไทย พบว่าให้นายนิพนธ์ กันชาติ หรือ "แดง เป็นต่อ" อายุ 54 ปี เจ้าของเต็นท์ขายรถยนต์มือ 2 ชื่อ "เป็นต่อ" เช่าเอาไว้ ต่อมาสืบทราบว่านายนิพนธ์เป็นลูกน้องคนสนิทในเครือข่าย "เจ้าฟูเฉิน" หรือนายชาญณรงค์ มูเซอ หรือนายชาญณรงค์ เกษมทัศน์ ญาติขุนส่าอดีตราชายาเสพติดโลก ตำรวจจึงขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก กระทั่งรวบตัวนายนิพนธ์ได้สำเร็จขณะกบดานอยู่ในหมู่บ้านพฤกษ์ลดา 1 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

สอบสวนนายนิพนธ์สารภาพว่าค้ายาบ้า-ยาไอซ์มาตั้งแต่ปี 2549 มีนายพีระยุทธ์ แพศย์สกล หรือ "ตี๋" ที่รู้จักในเรือนจำบางขวาง ติดต่อให้ขนส่งจากชายแดน จ.เชียงราย มายังภาคกลาง โดยรับออร์เดอร์มาจากนายฟูเฉิน นอกจากนั้น ยังซัดทอดว่ามีเพื่อนร่วมแก๊งอีกคน คือ พ.ต. ปิยะณัฐ เกตุจำรัส นายทหารสังกัดกองพันทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 ค่ายบรมไตรโลก นาถ จ.พิษณุโลก ขณะที่ "ข่าวสด" ได้เปิดเผยผังเครือข่ายฟูเฉิน ตามที่เสนอข่าวมาตามลำดับ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่บางส่วนในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำบัตรกอ.รมน.ไปใช้ในทางเสียหายว่า ขอเรียนว่า พล.ท.ปิติภาคย์ ป้อมนาค ผู้ออกบัตรกอ.รมน.ให้นายนิพนธ์ไม่มีอำนาจในกอ.รมน.มานานแล้ว ต่อไปนี้ตนขอประกาศว่า บัตรดังกล่าวที่มีพกติดตัวกันอยู่ใช้การอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น และมีเรื่องนี้มานานแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พล.ท.ปิติภาคย์เกษียณราชการไปนานแล้ว แต่บัตรพวกนี้ยังอยู่ ทางเราพยายามเก็บกลับเข้ามา แล้วแจ้งเจ้าตัวท่านทราบว่าบัตรที่ออกในสมัยท่านนั้นใช้ไม่ได้ หมดสมัยไปแล้ว หมดอายุราชการไปแล้ว และคนที่ออกบัตรก็เกษียณราชการไปนาน ใครถือบัตรอันนี้ไปแสดงถือว่ามีความผิด เพราะเป็นการปลอมบัตรเจ้าหน้าที่ และหากผู้ใดเห็นบัตรนี้ขอให้แจ้งกลับมาทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ กอ.รมน.ไม่ใช่หน่วยงานนอกกฎหมาย ไม่ใช่หน่วยงานการเมือง ไม่ใช่หน่วยงานที่เอาไปทำงานนอกลู่นอกทาง กอ.รมน.คือองค์กรบูรณาการในการทำงานร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ และทหาร มี นายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.กอ.รมน. ฉะนั้นจะไปเกเรไม่ได้ ต้องทำตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับนายทหารยศ "พ.ต." นายหนึ่งที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งถูกนายนิพนธ์ ผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผบ.ทบ.ตอบว่า "ผมทราบตั้งแต่ต้นแล้วว่ามีการซัดทอดและเกี่ยวพัน จึงให้เจ้าหน้าที่ทหารเราเข้าไปติดตามความคืบหน้า แล้วให้บอกกับตำรวจว่าใครก็ตามที่เข้าไปมีส่วนร่วมหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย แจ้งมาเลยจะส่งตัวและควบคุมตัวไปให้สอบสวน ถ้าผิดว่าไปตามผิด ดำเนินคดีสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ทหารไม่ดีเราไม่เลี้ยงอยู่แล้ว ทหารต้องเป็นทหารสีขาว ทหารเรามีอยู่สองแสนกว่าคน มันมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ก่อนอาจเป็นคนดี แต่เดี๋ยวนี้อาจเป็นคนเกเร อาจจะหลงผิด คนพวกนี้ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย คนดีเยอะกว่า อย่ากลัวว่าผู้บังคับบัญชาจะปกป้องหรือปิดบังคนทำไม่ดี"

ที่กรมราชทัณฑ์ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากนายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดพันล้านถูกจับและให้การซัดทอดว่าเป็นเครือข่ายร่วมกับนายพีระยุทธ์ แพศย์สกล หรือ "ตี๋" นักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี จึงประสานกับทางตำรวจเพื่อนำกำลังเจ้าหน้าที่และหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนของนายพีระยุทธ์เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าเครือข่ายของนายพีระยุทธ์ในเรือนจำมี 3 คน ผลการจู่โจมตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แต่ไม่ได้อยู่ที่นายพีระยุทธ์ และช่วงเช้าชุดจู่โจมเข้าตรวจค้นอีกรอบ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

"จากการรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายพีระยุทธ์ช่วงที่ผ่านมายังไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ระบุ

ด้านนายวิษณุ ประจงกิจ ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง กล่าวว่า จากการจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนของนายพีระยุทธ์ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หรือยาเสพติดในตัวนายพีระยุทธ์ และให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวกับนายนิพนธ์ รวมทั้งไม่ได้เป็นคนสั่งการตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทางเรือนจำยังไม่เชื่อคำให้การของนายพีระยุทธ์ จึงสั่งให้นำตัวไปขังเดี่ยว ภายในแดนความมั่นคงสูงเพื่อรอสอบสวนขยายผลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ศาลอาญารัชดาอนุมัติหมายจับเลขที่ จ. 17/2555 และ จ. 18/ 2555 ให้จับกุมพ.ต.ปิยะณัฐ เกตุจำรัส และ จ.ส.อ.วีนัส ศรีใจ หรือจ่าซิป นายทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 302 กองทัพภาคที่ 3 หลังตำรวจมีหลักฐานชี้ว่ามีพฤติกรรมพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเป็นคำซัดทอดจากนายนิพนธ์ ซึ่งให้การว่ารับยาเสพติดจำนวนมากจากทหารทั้งสองนาย และตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวพ.ต.ปิยะณัฐ จากจ.พิษณุ โลก มาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ปส.3) ส่วน จ.ส.อ.วีนัสทราบว่าหลบหนีไปแล้ว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว แต่ทหารไม่ให้ข้อมูลมากนัก อีกทั้งพยายามกันไม่ให้ถ่ายภาพ แต่ผู้สื่อข่าวจำนวนมากต่างปักหลักรอสัมภาษณ์และรอถ่ายภาพพ.ต.ปิยะณัฐ ตลอดทั้งวันจะมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าสอบปากคำ พ.ต.ปิยะณัฐที่ถูกควบคุมตัวอยู่บนชั้น 2 กรมทหารช่างที่ 3 ภายในค่ายสมเด็จพระบรมไตร โลกนาถ กระทั่งเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพ.ต.ปิยะณัฐ เดินลงมาเพื่อไปขึ้นรถตู้ข้างตึก โดยพ.ต.ปิยะณัฐเดินนำหน้าออกมาก่อนใครและรีบเดินขึ้นรถตู้ทหารอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นมีรายงานว่า พ.ต.ปิยะณัฐเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปยังเซฟเฮาส์ลับแห่งหนึ่ง เพื่อรอพาเข้ากรุงเทพฯ

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนตำรวจภาค 6 หนึ่งในทีมสอบพ.ต.ปิยะณัฐ เปิดเผยว่า พ.ต. ปิยะณัฐรับสารภาพว่าทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ได้รับค่าจ้างขนยาเสพติดจากเชียงรายลงมากรุง เทพฯ ในราคา 1 ล้านบาท นอกจากนั้น ผู้ต้อง หายังให้การอื่นๆ เป็นประโยชน์อีกด้วย ซึ่งจะได้ขยายผลต่อไป

เวลาประมาณ 19.00 น. ที่สนามฟุตบอล บุณยะจินดา ด้านหลังบช.สป. ถนนวิภาวดี รังสิต เขตหลักสี่ กทม. เฮลิคอปเตอร์ตำรวจนำตัว พ.ต.ปิยะณัฐมาถึงกทม. โดยมีของพ.ต.อ.ณรงค์ ยิ้มเจริญ ผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวน บก.ปส. 3 เป็นผู้ควบคุมตัว จากนั้นนำตัวผู้ต้อง หาขึ้นไปให้พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมาผบช.ปส. สอบปากคำต่อบนชั้น 8 ตึกบช.ปส. ขณะที่ผู้ต้องหาพยายามปกปิดใบหน้าไม่ให้สื่อบันทึกภาพ

 
วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7729 ข่าวสดรายวัน

ไม่มีความคิดเห็น: