วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

“เป็น “ฝ่ายค้าน” ไปนานๆ นะ...ไอ้พวกเอ็ง!!!”


วาทตะวัน สุพรรณเภษัช


        มเคยเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง ถึงเรื่องการที่รัฐบาลปัจจุบันแก้ปัญหา ที่เราเคยมีกับเพื่อนบ้านรอบประเทศ จนลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง สามารถคลี่คลายความขัดแย้งชายแดน ซึ่งนาย มาร์ค มุกควาย กับพรรคโลซกได้ก่อไว้ ตั้งแต่ครั้งร่วมมือกับทหาร แย่งอำนาจเข้ามาเป็นรัฐบาล
        จนถึงขั้น...ยิงปืนใหญ่ ถล่มใส่กันแบบไม่ยั้ง!
        เหตุการณ์ร้ายแรงที่ชายแดน ด้านตะวันออกของประเทศ ทำให้พี่น้องชาวไทยเดือดร้อนวุ่นวาย ต้องบาดเจ็บล้มตาย พลัดที่นาคาที่อยู่ แถมบางหมู่บ้านต้องมุดลงรูลงท่อ หลบลูกระเบิดกันวุ่นวาย รัฐต้องจ่ายเงินทำสงครามไป อีกหลายพันล้านบาท
        นี่ยังไม่นับ การสูญเสียเครื่องบินรบ ตระกูล F ซึ่งราคาแพงมากไปอีกสองลำ ท่ามกลางเสียร่ำลือว่า เป็นเพราะ..
        หลบ ป.ต.อ.เขมร จนชนกันเอง ชิบหายไปทั้งสองลำ!
        ใช่แต่แค่นั้นนะ...
        ส.ส.พรรคโลซก ยังยกพวกบุกรุกเข้าไป ในดินแดนกัมพูชา จนถูกจับกุมได้ ซึ่งทำให้ไทยต้องตกเป็นรองเขมร ในการเจรจาความเมืองในเวลาต่อมา เหตุเพราะมีคนไทยไปถูกจับ เป็น “ตัวประกัน” ค้ำอยู่นั่นเอง
        ยิ่งไปกว่านั้น...
        แม้อดีต ส.ส.กลับบ้านได้อย่างสะบักสะบอม โดยทิ้งให้นักเคลื่อนไหวสาย เถนรักษ์ “ผีบุญ” แห่งอาศรมสันติกะโหลก ที่เข้าไปในดินแดนเขมร พร้อมกับไอ้ส.ส.พรรคดักดานตัวแสบ อย่างไม่สนใจใยดี
        มิหนำซ้ำ ยังต้องรับโทษ “จำคุก” อีกด้วย!!
        โชคดีที่ประเทศไทย ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทันท่วงที เพราะเพียงเธอดำรงตำแหน่งไม่กี่วัน เหตุการณ์ชายแดนด้านเขมร ได้คลี่คลายลงอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ
       
น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!         ทหารไทยสามารถถอนกำลัง ออกจากการประจันหน้ากับกองทัพเพื่อนบ้าน ทั้งตัวนายและไพร่พล ได้กลับไปอยู่กับลูกเมียที่บ้านเพราะ สถานการณ์กลับคืนไปเป็นปกติดังเดิมแล้ว
        นี่คือสิ่งที่ไอ้ “รัฐบาลพรรคโลซก” มันไม่มีวัน ทำได้อย่างเด็ดขาด!
        สำหรับชายแดนทางด้านพม่า  ผมได้เขียนบทความ “ไอ้พวก ‘เงี่ยน’ ปฏิวัติ...พวกกู ไม่กลัว พวกมึง!!!”  (http://vattavan.com/detail.php?cont_id=349) เอาไว้ว่า
        ...‘แม่สอด’ ที่ปิดมากว่า 2 ปี ในยุครัฐบาลกาลีนั้น แค่นายกฯปูเข้ารับตำแหน่ง แค่สามเดือนเท่านั้น ด่านเปิดเรียบร้อยแล้ว คนไทยชายแดนหน้าตามีเลือดฝาด แจ่มใสไปตามๆกัน
        การค้าขายระหว่างกันที่ด่านสำคัญนี้ น.ส.พ. “ไทยรัฐ” ประมาณการว่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี นอกจากนั้น ยังมีการพิจารณาระหว่างสองประเทศ ถึงการเปิดด่านตามช่องทางอื่นๆอีกด้วย

       
ชาวบ้านร้านตลาดตามแนวชายแดน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่างแตกต่างจากตอนไอ้พรรคกาลี มันบริหารบ้านเมืองยิ่งนัก เพราะไอ้รัฐบาลเวรตะไลนั่น มันทำให้บ้านเมืองของเรา         ต้องตกที่นั่งร้อนระอุ มิได้สร่างซาเลยทีเดียว!
        นี่เป็นผลงานชัดเจน ของรัฐบาลนายกปู แต่ก็น่าแปลกที่ผลงานดีมากๆทางด้านต่างประเทศ แต่รัฐบาลของนายกฯปู...         กลับเผยแพร่ความสำเร็จนี้ น้อยเหลือเกิน!         พี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ค่อยทราบกัน กลับไปจำความหวาดกลัวนโยบายอัปรีย์ของรัฐบาลพรรคกาลีได้ เพราะเป็นที่รู้กันไปทั่วว่า ไอ้รัฐบาลโลซกนั้น มันเอาแต่...        “ทะเลาะกับเขมร เขม่นพม่า ด่าญวน กวนส้นตีนลาว”        รัฐบาลของนายกฯปู สามารถทำให้ชายแดนของประเทศ ที่รุ่มร้อนมานานหลายปี กลับสู่ความสงบสุขได้ ภายในระยะเวลาแสนสั้น         ผู้คนอนุโมทนา!         เมื่อทำสิ่งดีๆอย่างนั้นแล้ว รัฐบาลเองต้องรู้จักคัดเอาผลงานดีๆ ไปป่าวประกาศให้ผู้คนเขารู้กันให้ทั่ว แต่นี่กลับนิ่งเงียบ ปล่อยให้ไอ้พวกกาลี มันตีกินเอาข้างเดียว
        แค่ให้นายกฯปู ไปเดินตลาดแม่สอด คุยกับพ่อค้าแม่ขาย  ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบ เท่านี้สื่อก็ตีข่าวกันกระฉ่อนแล้ว
        แนะนำกันไว้...แค่นี้แหละ!!
        นั่นคือ สิ่งที่ผมเขียนถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มาหลายสัปดาห์มาแล้ว
        าถึงวันนี้ แม้นายกฯปูยังไม่ทันจะไปเยี่ยมแม่สอด ตามคำแนะนำของผม แต่อานิสงส์ที่เธอทำให้ชายแดนเปิดได้ เป็นผลให้กลางเดือนที่ผ่านมา เมื่อมีการเลือกตั้ง อบจ.จังหวัดตาก ซึ่งเป็นจังหวัดที่พรรคฝ่ายค้านดักดาน มี ส.ส. ยึดครองไว้ถึง 3 คน เต็มตามอัตราศึก นั้น
        ผลการเลือกตั้ง กลับพลิกความคาดหมายไป อย่างน่าตื่นเต้น เพราะ...
        พรรคเจ้าถิ่นกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คนของพรรค “เพื่อไทย” อย่างราบคาบ ซึ่งเป็นลางร้ายของพรรคประชาธิเปรต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เห็นทีจะต้องสูญเสียฐานกำลังสำคัญ ที่เหลือโด่เด่อยู่เพียงจังหวัดเดียว ทางภาคเหนือตอนล่าง
        ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาความไม่ทุจริตโปร่งใส ของพรรคประชาธิเปรตเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนแรง เพราะโครงการที่พรรคนี้เป็นหัวเรือในการดำเนินการ หรือมีส่วนพัวพัน ทั้งระดับชาติหรือระดับท้องถิ่นอย่าง กทม. กำลังขยายภาพ “ความชั่วร้าย” ออกมา
        ให้ประชาชนเห็นต่อเนื่อง ทีละเรืองสองเรื่อง!
        คนสำคัญของพรรคกาลี ที่มีรายชื่อจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน นายมาร์ค มุกควาย อย่าง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ก็เสียศูนย์ไป เหตุเพราะต้องลาออกจากตำแหน่ง ผู้ว่ากทม.ฯ สมัยที่ 2 เพราะเรื่องทุจริตในหน่วยงานแห่งนี้
     
   คนที่พรรคโลซกจะยกหัวหน้า อย่าง “บัง” อภิรักษ์ฯ ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณา ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไปเรียบร้อยแล้ว!         ดูไปแล้ว พรรคประชาธิเปรตนอกจากจะไม่ก้าวหน้าไปในทางดีแล้ว ยังกำลังจะ...
        หล่นไปสู่ “หุบเหว” แห่งความเสื่อมโทรมอีกด้วย!
        อยากจะเรียน ท่านผู้อ่านว่า
        ประชาชนชาวตากนั้น เขาเล็งเห็นแล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่พรรคประชาธิเปรตมีอำนาจอยู่นั้น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ทรุดโทรมลงในทุกๆด้าน เพราะพรรคดักดานนี้ ใช้นโยบายที่ผมเคยเขียนเอาไว้ว่า
       
...เที่ยวพาลรีพาลขวาง หันไป “โกรธเขมร เขม่นพม่า ด่าญวน กวนส้นตีนลาว” ชวนทะเลาะกับเขา รอบโลก
        จนไม่มีใครอยากคบ!....

        ...ท่านผู้อ่าน คงเห็นภาพชัดเลย!!
        ด้วยเหตุนี้เอง พี่น้องชาวตากเขาได้รับความเดือดร้อน เพราะชายแดนปิด ทำมาค้าขายไม่ได้ แต่พอคุณปูเธอเข้ามาเป็นนายกฯเท่านั้น หนทางที่เคยตีบตัน กลับไหลลื่น เปิดโล่ง ทุกอย่างกลายเป็นทางสะดวกโยธินบูรณะ ไปเสียทั้งหมด
        การทำมาค้าขายชายแดน เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว นี่เองเป็นเหตุผลให้ ผู้คนในเมืองตาก ที่เป็นฐานสำคัญของพรรคประชาธิเปรต หันมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย จนชนะในการเลือกตั้ง ชนิดหักปากกาเซียนการเมือง ในการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.
        ที่ชาวตากเปลี่ยนใจ กลับมามอบ “ชัยชนะ” ให้พรรคเพื่อไทยนั้น แสดงว่า... 
       
เรื่องปากเรื่องท้องนั้น สำคัญขนาดพลิกผลการเลือกตั้งได้เลย!        ยิ่งไปกว่านั้น...
        ที่ผู้คนไม่ค่อยทราบนัก นั่นคือ นอกจากการเปิดด่านชายแดนแล้ว ความมีเสน่ห์ในการเจรจาความเมือง ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังปักทรวงผู้นำพม่า ถึงกับยกเลิกการกีดกันสินค้าสำคัญ 15 รายการ เช่น
        ผงชูรส น้ำหวาน/เครื่องดื่ม(Soft drink) ขนมปังกรอบทุกชนิด (Biscuits) หมากฝรั่ง ขนมเค้ก ขนมเวเฟอร์ ช็อกโกแลต อาหารกระป๋อง (เนื้อสัตว์ และผลไม้) เส้นหมี่ทุกชนิด เหล้า เบียร์ บุหรี่ ผลไม้ทุกชนิด ผลิตภัณฑ์พลาสติกผงชูรส เครื่องกระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น
        สินค้าเหล่านี้ สร้างประโยชน์โพดผลให้แก่พ่อค้าชาวไทย เงินทองจะหลั่งไหลเข้าประเทศอีกมากมาย เพราะมีพลเมืองพม่าอีกหนึ่งประเทศเต็มๆ จะมาเป็นลูกค้าสินค้าเครื่องบริโภค ที่ผลิตโดยบริษัทไทย
        ที่น่าตื่นเต้นมากคือ เพียงประกาศยกเลิกการกีดกันสินค้าสำคัญ แค่วันแรกเท่านั้น
       
สินค้าเกลี้ยงงงงงงงงงง....ตลาดแม่สอดเลย!         ใช่แต่ตลาดแม่สอดเท่านั้น เมืองชายแดนอื่นที่ติดต่อกับพม่า ไม่ว่าจะเป็นแม่สาย เชียงราย สินค้าที่ได้รับการยกเลิกการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน เกลี้ยงร้านค้า หมดทั้งตลาด ไม่ได้ต่างจากด้านแม่สอดเลย
        เห็นความสำเร็จของ “นายกฯปู” กันหรือยัง!!!
        เมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ค.2555 นายสมเกียรติ อ่อนวิมล ได้ออกมาเล่าในรายการ “เช้าทันโลก” ทาง FM 96.5MHz (คลื่นของ อ.ส.ม.ท. ที่ผมให้ราคา เป็นแค่ “เนชั่ว” สาขา 2) ว่า
        ทางบริษัทสหพัฒน์ฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของพันธมิตร และพรรคดักดาน ได้ไปต้มบะหมี่มาหมาแจกเด็กๆ หระว่างการแนะนำอาหารอาเซียนในประเทศพม่า
        ฟังแล้ว...ผมอยากจะบอกว่า
        แม้บริษัทสหพัฒน์ฯจะแสดงทีท่า “ไม่เป็นมิตร” กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและนายกฯปู อีกทั้งผู้บริหารยังถล่มรัฐบาลนายกฯปูทางสื่อเสื้อเหลือง และสื่อตรงข้ามรัฐบาลมาโดยตลอด แต่นายกฯปูก็ไม่ได้ถือสา หรือตอบโต้แต่อย่างใด และหลังจากการยกเลิกการกีดกันสินค้าไทย บริษัทกลับได้รับประโยชน์จากความสามารถของรัฐบาลที่เขาไม่ชอบ อย่างเต็มที่
        นี่ถ้าหากรัฐบาลดักดาน ที่พวกเขาโปรดปราน ยังอยู่ในอำนาจ สินค้าของสหพัฒน์ฯ โดยเฉพาะบะหมี่ที่มีคุณค่าทางอาหารน้อยเต็มที จะไม่มีโอกาสเข้าไปขาย ในดินแดนเมียนมาร์ เป็นอันขาด
        จริงหรือเปล่าล่ะ!?
        ที่คนในวงการค้าขาย ต้อง “ทึ่ง” หนักยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อคราวนายกฯปูบินไปเจรจาทางการค้า กับที่ราชอาณาจักรบาห์เรนและประเทศการ์ตาร์ เสน่ห์ของนายกฯชาวเจียงใหม่
        ก็แผลงฤทธิ์อีกครั้ง!
content/picdata/367/data/photo_10.jpg
        คราวนี้ทำให้ตลาดค้าไก่ของไทยเรา เหมือนได้รับการประพรมด้วยน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เพราะโลกอาหรับได้ยกเลิกข้อห้าม การนำเข้าเนื้อไก่ไทย ไปเรียบร้อยแล้ว...
       
สาธุ...สาธุ...สาธุ!         ต่อจากนี้ไปเราจะได้เห็นคนเลี้ยงไก่ พ่อค้าไก่ ตื่นจากสลบไสล และยิ้มระรื่นกันได้ทั่วหน้า
        เงินทองไหลมาเทมาอีก...เป็นพัน เป็นหมื่นล้าน!!
        ถ้าไอ้พรรคโลซกยังเป็นรัฐบาลอยู่ อย่างดีที่พวกมันจะทำได้ ก็คงแค่คอยจับ “ไก่หลง” บ้าง “ไก่ตาฟาง” บ้าง ที่พลัดเข้ามาค้าขายกับไทยแลนด์เท่านั้น
        เพราะ...
        ไอ้พรรคเวรพรรคกรรมนั่น ค้าขายไม่เป็น แค่ขายกาแฟในพรรคยังเจ๊ง ยิ่งเรื่องค้าขายกับต่างประเทศแล้ว เป็นเรื่องที่อิมพอสสิเบิลเป็นไปไม่ได้เลย
        สันดานไอ้พวกนี้มันเสีย ค้าขายกับใครเขาไม่ได้หรอกครับ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องค้าขายแดนไกล กะอีแค่ค้ากับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง เขาก็ยังเมิน เพราะรำคาญที่มันพาลหาเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้านเขาร่ำไป นั่นเอง
        ผมถึงย้ำกับท่านผู้อ่าน หลายครั้งหนแล้วว่า...
        ไอ้พรรคเปรตนี่...มัน “ระยำ” สุดๆจริงๆ!!!
        วามสำเร็จของนายกฯปู ทำให้พรรคฝ่ายค้านต้องเจ๊กอั้กอีกครั้ง เมื่อ IMF แถลงชมนโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลาย ของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน ว่า
        มีความเหมาะสมแล้ว สำหรับในภาวะที่เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ และแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในภาวะเช่นนี้ คณะกรรมการบริหาร IMF สนับสนุนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลนายกฯปูเต็มที่
        เป็นที่น่าตื่นเต้นยินดีเหลือเกิน ที่ IMF ได้ประเมินศักยภาพทางเศรษฐกิจแล้ว เห็นว่าไทยฟื้นตัวเร็วเกินคาด แถมยังคาดว่า
        ปีนี้ พ.ศ.2555 นี้ GDP ของไทย จะโต 5.5% ส่วนปีหน้า พ.ศ.2556 จะโตต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นอีกเป็น 7.5% ก้าวหน้ามากกว่าอีกหลายๆชาติ ดูตารางเปรียบเทียบ ที่ผมแสดงเอาไว้ข้างล่างนี้ก็แล้วกันครับ
content/picdata/367/data/photo_11.jpg
        ท่านผู้อ่าน ที่เคารพรักครับ
        บัดนี้ ท่านคงจะเห็นได้ว่า มีหลักฐานยืนยันอย่างแจ้งชัด จากทั้งในและนอกประเทศ ว่า
        ประเทศไทยของเรานั้น กำลังมีความเจริญก้าวหน้า ไปมากกว่าตอนที่รัฐบาลโลซก ปกครองบ้านเมืองของเรามากมายหลายเท่านัก
        ขอเพียงให้พี่น้องประชาชน ให้กำลังใจ พร้อมกับสนับสนุน นายกฯปู และรัฐบาล “พรรคเพื่อไทย” ให้ได้บริหารประเทศนานๆต่อไปเท่านั้น บ้านเมืองของเราก็จะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างดี เพราะ
        รัฐบาลนี้เขามีสติปัญญา ไม่เหมือนรัฐบาลของพรรคกาลี!
        ดังนั้น เลือกตั้งคราวหน้าหรือคราวไหนก็ตาม พวกเราผองไทย ต้องร่วมมือร่วมใจ ไม่เลือกไอ้พรรคกาลี ให้มันกลับมามีอำนาจ สร้างความทุกข์ยากให้กับบ้านเมืองของพวกเราอีกต่อไป
        อย่างเด็ดขาด!
        ทิ้งให้มันยืนค้าน นั่งค้าน ตีลังกาค้าน ติดต่อไปอีก สัก 40 ปี ก็แล้วกัน!!
        ช่วยกันตะโกนบอกพวกมันดังๆ ด้วยนะครับ ว่า
        “เป็น “ฝ่ายค้าน” ไปนานๆ นะ...ไอ้พวกเอ็ง!!!”              
...555...
...........
ท้ายบท www.vattavan.com ยังไม่สามารถจัดการนำความเห็น ที่แฟนๆโพส ขึ้นท้ายบทความได้ตามปกติ
        ดังนั้น จึงต้องใช้วิธี นำความเห็นที่ท่านโพส มาขึ้นท้ายบทความสัปดาห์ถัดไปอีกระยะ และที่ท่านเห็นต่อไปนี้ คือความเห็นจากสัปดาห์ก่อนตอน  
       
ลับ-ลวง-เลอะ-เละ-แหล!! (พัชระ สารพิมพา อ่านซะ!!!)        (http://vattavan.com/detail.php?cont_id=365)
ความคิดเห็นที่ 1     แล้วพัชระ อาจจะต้อง "ร้อง ครวญ คราง" ด้วยครับท่านวาทตะวัน  โดยคุณ วาดฝัน ตะวันคลางแคลง  125.24.12.XXX
ความคิดเห็นที่ 2    
อ้าว...ตัว "เต้าข่าว" หน้าตาอย่างนี้เองแฮะ
โดยคุณ จอมเต้า  101.109.210.XXX 
ความคิดเห็นที่ 3     เสียดายที่พัชระเป็นคนอุดร จบ ป.โท แต่ตายังไม่สว่างเหมือนคนส่วนใหญ่ของจังหวัด โดยคุณ suda  110.168.112.XXX  
ความคิดเห็นที่ 4    
ควรปรับเปลี่ยนบุคคลากรที่มีแนวคิดไม่ดีกับรัฐบาลทั้ง ช่อง 9 ช่อง 11 ให้ไปอยู่ที่ช่องเนชั่ว ช่องเหลืองอ๋อย หรือช่องบลูสเกิ๊ต น่าจะดีกว่าครับ  โดยคุณ คนร้อยเอ็ด  1.4.128.XXX
ความคิดเห็นที่ 5    
ได้อ่านคอลัมน์ของท่านวาทตะวันวันนี้แล้ว หายหงุดหงิดใจไปพอสมควร เพราะไม่มีใครจะไปหืออือกับสื่อได้ ถ้าไม่ใช่สื่อด้วยกันเอง พวกทำตัวเป็นเทวดาหรือเป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่เสมอ คือสื่อบางพวกบางคนนี่แหละ ผมเคยมีประสบการณ์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมกับบุคคลในคราบสื่อมาพอสมควร ไม่ค่อยพบพวกที่พอจะเชิดชูได้ จึงค่อนข้างมีทัศนคติในทางลบกับสื่อ แด่ก็ยกย่องสื่อที่ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง (แม้ในความเป็นจริงจะไม่มีก็ตาม) เคยเลิกเสพข่าวสารไปพักใหญ่เพราะความบิดเบี้ยวของสื่อ แต่ก็ต้องกลับมาเลือกเสพอีกครั้งเมื่อมีข่าวการตรวจสอบ-การร้องเรียนเพื่อความถูกต้องในกรณีต่าง ๆ ของประเทศ โดยมีสื่อช่วยขุดคุ้ยและกัดไม่ปล่อย ซึ่งจะทำให้ประเทศสะอาดขึ้น นี่เป็นจุดแข็งและอิทธิพลของสื่อที่ใช้แล้วจะมีแต่คนโมทนาสาธุ ส่วนการใช้อิทธิพลเพื่อการอื่น ขอสาปส่ง ท่านวาทฯสะกิดแรง ๆ อย่างนี้คงช่วยให้พวกที่กำลังจะไปไกลสุดกู่ได้หันกลับมามองตัวเองหรือสะดุดหยุดคิดบ้าง
โดยคุณ คิดทางลบกับสื่อมานาน  124.120.189.XXX 
ความคิดเห็นที่ 6    
อ่านแล้วคล้อยตามและมึความสุขมาก อีนายพัชระ สารพิมพม หน้ามันก็คล้ายกับอีนายคางคก ในสภานั่นแหละ เวลาพูดคล้ายกับลิ้นคับปาก ชอบแสดงความโกหกเหมือนกลุ่มเนชั่วทุ ๆ คน แต่แปลกคุณวาสนา ฯ นี่แหละเพราะเหตุใดจึงทำรายการร่วมกับนายคนนี้ได้หรือเพราะเงิน สะใจที่คุณจักรพรรณ ยมจินดา ลาออกจาก อ.ส.ม.ท ไปเสียเถิดถ้าจิตสำนึกหรือความอดทนมีเพียงเท่านี้ อยากให้คุณปลื้ม หรือ คุณ บ.ก ประชาไท(คุณชูวัส ฯ)ก็ได้ มาเป็นผอแทนก็ดี อาจารย์เห็นด้วยกับผมหรือเปล่า 
โดยคุณ
suaksai@thaimail.com  101.108.215.XXX
ความคิดเห็นที่ 7    
"ไอ้หน้าชนเขื่อน สาขา 2" ตัวนี้ มันจอมตีกิน อวดรู้จริงๆ มันคงนึกว่าคนฟังเขาโง่
โดยคุณ X Ray  125.27.51.XXX  
ความคิดเห็นที่ 8     เลิกฟังมานานแล้วตั้งวาสนาเขียนหนังสือเล่มล่าสุด  โดยคุณ Kowfangnasok@hotmail.com 10.49.233.XXX  
ความคิดเห็นที่ 9     ว่างๆก็คอมเมนต์ยัยนังสมจิตต์ นักข่าวสายกองทัพบกช่อง7 สักหน่อยประไร เพราะคำถามเธอนั้นมันเอียงสุดขั้วอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่งน้ำเสียงที่เธอสัมภาษณ์นายมาร์คสุดหล่อของเธอ
น้นช่างหวาน หยดย้อยเสียนี่กระไร แต่ถ้าเป็นนายกปูหรือซีกรัฐบาล น้ำเสียงดั่งกับว่าไม่รู้พยาบาทมาตั้งแต่ชาติปางไหน
นักข่าวพันธุ์นี้เรียกว่าอะไรดี
โดยคุณ แข้งดำ  110.49.224.XXX 
ความคิดเห็นที่ 10 
พัชระ สารพิมพา ไม่ใช่ guru แต่เป็น "กูรู้" อย่างที่ว่า เป็น "กูรู้" เพราะ "กูอยู่ในรู" ไม่ยอมออกจากรู มามองโลกข้างนอกว่าเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้ว 
โดยคุณ เอียงมิเอียงแล้วแต่จะโปรด  125.24.199.XXX 

        (คอลัมน์ประจำสัปดาห์ “เป็น “ฝ่ายค้าน” ไปนานๆ นะ...ไอ้พวกเอ็ง!!!” ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 26 พฤษภาคม 2555)

ไม่มีความคิดเห็น: