10 เม.ย. 2555 9:57 น.
โบราณเขาว่าไว้...
"แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ" เชื่อกันหรือไม่ เพราะกลัวสงคราม...สงครามจึงเกิด
ปัญหาเรื่องความสามัคคีปรองดองของคนในชาตินั้น...ถึงวันนี้เราต้องถามตัวเองกันเสียก่อนว่า...ก่อนหน้าที่เราจะมาพูดกันถึงเรื่องนี้นั้น มันเป็นเรื่องหลังจากสันติภาพหรือสงคราม
สงครามมันเกิดขึ้นมาแล้วต่างหาก...ได้รบกันอย่างหนักจนมีฝ่ายแพ้ฝ่ายชนะแล้วใช่หรือไม่...เราถึงมาพูดกันเรื่องทำอย่างไรประเทศจึงจะเกิดความสมานฉันท์และปรองดอง
ถึงวันนี้ฝ่ายที่แพ้เป็นฝ่ายเอาสงครามมาขู่...ถ้าจะปรองดองสมานฉันท์ ต้องทำตามเสียง 163 เสียงและไม่ทำตามเสียง 348 เสียง…แต่ที่สำคัญกว่าก็คือว่าเสียงที่ตัดสินกันนั้น เป็นเสียงของที่ประชุมรัฐสภา รัฐสภาที่เชื้อกันตามรัฐธรรมนูญว่าเป็นเสียงของประชาชนคนไทยผ่านตัวแทน
จะเป็นสถาบันกันไปทำไม...หากว่าผลงานวิจัยของสถาบัน...ยังเป็นแค่ไม้หลักปักบนเลน...คนไม่กี่คนที่ทำตัวมีอำนาจเหนือสถาบัน...เป็นเผด็จการเหนือสถาบันที่เอาวิชาการบังหน้า...จะเป็นสถาบันกันไปทำไม...เพราะคนที่ออกมาค้านคือสมาชิกคนสำคัญของพรรคฝ่ายค้าน...
ถ้า 163 เสียง มันเอาชนะและทรงพลังเหนือกว่า 348 เสียง…ก็อย่าไปเลี่ยงคำประกาศสงคราม...สันติภาพที่ปราศจากกำลังรบไม่เคยมีอยู่จริงบนโลกใบนี้...
อะไรเกิดก่อนกันระหว่าง ไก่กับไข่...คำถามนี้ใช้ได้กับ...คำถามที่ว่า...อะไรเกิดก่อนกันระหว่าง สงครามกับสันติภาพ...
ถ้ารัฐสภา...จะต้องส่งกลับมติที่ได้อภิปรายถกเถียงและลงมติตัดสินกันแล้ว...ด้วยคะแนนที่แตกต่างกันลิบลับแล้วกลับไปอ่อนข้อให้กับเสียงค้านนอกสภาไม่กี่คน...หรือยอมจำนนกับเสียงขู่...เพราะกลัวเสียงส่วนน้อยจะโกรธแล้ว...ก็อย่าไปมีมันดีกว่า...ทั้งสภาทั้งสถาบัน...
ผลงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าในเรื่องวิธีการปรองดองนั้น...ไม่ใช่ทรัพย์สินทางปัญญามันจึงไม่มีสิทธิ์สถาบันจะถอนหรือไม่...ไม่ใช่ปัญหา...ปัญหามันอยู่ที่ว่า...ผู้อ้างตัวเป็นปราชญ์เป็นสุดยอดนักวิชาการนั้น...ยังสำคัญตนผิดคิดว่าตนมีอำนาจทั้งๆ ที่อำนาจนั้น มันไม่เคยมี...
จะสงครามหรือสันติภาพ จะแตกแยกหรือสามัคคี...ผู้มีหน้าที่เลือก...ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่
...................................................................................................
เพลง : ที่รักเรารักกันไม่ได้
ศิลปิน : ไพจิตร อักษรณรงค์
เนื้อเพลง :
ศิลปิน : ไพจิตร อักษรณรงค์
เนื้อเพลง :
ชาตินี้ที่รัก เราคง รักกันไม่ได้เพราะว่าหัวใจ ของเธอนั้นมีเจ้าของฉันต้องสะอื้น กล้ำกลืนแต่น้ำตานองไม่อาจจะเรียกจะร้องให้เธอนั้นมา เคียงใกล้หัวใจของน้อง ร่ำร้องหาแต่เช้าค่ำแสนจะระกำ น้ำตาไม่มีจะไหลอยากคิดลืมพี่ แต่แล้วก็สุดหัวใจอดห้ามหักใจไม่ไหวเพราะว่าหัวใจนั้นเป็นทาสเธอฉันรักเธอ ยิ่งกว่าใครใครเธอจะรู้หรือไม่ ว่าใจฉันมั่นเสมอถึงจะมี ชายอื่นที่ดี กว่าเธอฉันมั่นต่อเธอเสมอ เพราะฉันรักเธอยิ่งนักชาตินี้ที่รัก เราคงรัก กันไม่ได้เพราะว่าหัวใจ ของเรารักกันยิ่งนักเพราะเธอมีคู่ อยู่แล้วเธอ อย่ามารักแม้หาก ชาติหน้ามีรักขอเป็นคนรัก คนแรกของเธอฉันรักเธอ ยิ่งกว่าใครใครเธอจะรู้หรือไม่ ว่าใจฉันมั่นเสมอถึงจะมีชายอื่นที่ดี กว่าเธอฉันมั่นต่อเธอเสมอ เพราะฉันรักเธอยิ่งนักชาตินี้ที่รัก เราคงรักกันไม่ได้เพราะว่าหัวใจ ของเรารักกันยิ่งนักเพราะเธอมีคู่ อยู่แล้วเธออย่ามารักแม้หาก ชาติหน้ามีรักขอเป็นคนรัก คนแรกของเธอ.
........................................
จาก คนอ่านข่าวเล่าความคิด
ดูเนื้อเพลงๆเพลงนี้แล้ว ก็มองย้อนมาที่การเมืองในประเทศไทย นักการเมืองไทยมีภารกิจที่สำคัญ คือ ผ่านพ้นวันตื่นลืมตามา ก็มีแต่เรื่องจับผิดคิดใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม หน้าที่ที่ควรทำก็ เช้าชามเย็นชาม... ล่าสุดแม้แต่เรื่องการสร้างความปรองดองภายในชาติ ก็ยังคัดค้านกันตะบันหั่นแหลก แยกขี้ยวคำรามถามหาแต่จริยธรรมกัน โดยหารู้ไม่ว่า พวกที่เรียกตนเองว่าผู้แทนปวงชนนั้น ในแต่ละวันแสดงกิริยา วาจาน่าบัดสีออกมากันมากน้อยเพียงไหน .. การสร้างความปรองดองนั้น ต้องมีองค์ประกอบหลายสิ่งหลายอย่าง ที่สำคัญคือคนๆๆๆๆ คนเราทั้งหลาย ในประเทศนี้แหละ ที่ต้องช่วยกัน แต่สังคมของเราทุกวันนี้ มันเน่าไปแล้วจริง อุปสรรคแรกของการสร้างความปรองดอง คือการไม่เคารพสิทธิของกันและกัน ละเมิดสิทธิผู้อื่นแบบไม่เกรงอาญา ..ขนาดในห้างดังกลางเมืองหลวง มีคนบอกว่า แค่ใส่เสื้อแสดงตัวว่ารักใครชอบใคร อีกฝ่ายที่ไม่ชอบด้วย ยังยกส้นตีนใส่และเข้าไปด่าทอถ่มถุยน้ำลายใส่กัน จนมีเรื่องถีงขั้นทำร้ายร่างกาย ...ปรองดอง ปรองดอง คงจะต้องดองไว้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ .. แถมยังมีการยกพวกออกมาแถลงข่าวข่มขู่ กูจะประท้วงกูจะชุมนุม ...พรรคดารเมืองที่เป็นฝ่ายค้าน แทนที่จะทำงานตรวจสอบรัฐบาล ก็แถลงการออกสื่อทุกวันว่า ทำเพื่อคนนั้นคนนี้ แม้กระทั่ง คนที่ตายเพราะยุคตนเองเป็นรัฐบาล จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาก็ตามราวีขัดขวาง ... ตกลงประเทศนี้ มันเป็นเครื่องมือหากินของพวกไม่เอาถ่านที่มาเล่นการเมืองโดยมีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนข้ออ้างเท่านั้นเองหรือครับ ...ประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น